ธปท. เปิดตัวเลขสินเชื่อส่วนบุคคล เติบโตสูงถึง 31% ชี้เกิดจากแบงก์ปล่อยให้ ขรก. ในรูปแบบหักเงินเดือนสูงถึง 35% พร้อมระบุ ปัญหาน้ำท่วมส่งผลให้ยอดสินเชื่อรวมกระฉูด ทั้งสินเชื่อเพื่อการลงทุน สินเชื่อที่ขอผลจากโครงการรัฐ
นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวสูงถึง 31% ล่าสุด เดือนมิ.ย.55 เนื่องจากในส่วนนี้ธนาคารพาณิชย์มีการปล่อยสินเชื่อให้แก่ข้าราชการในลักษณะหักเงินรายเดือนในการใช้หนี้ ส่งผลให้สินเชื่อในกลุ่มนี้เติบโตถึง 35% ซึ่งเข้าใจว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการดึงคนให้เข้าระบบมากขึ้น อีกทั้งต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่คนที่มีเงินเดือนประจำ จึงดึงให้สินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ จากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีก่อน แม้จะได้รับเงินชดเชยค่าประกันไปแล้ว 3.5-4 แสนล้านบาท แต่ยอดขอสินเชื่อโดยรวมเพิ่มขึ้น โดยส่วนแรกเกิดจากขอสินเชื่อเพื่อการลงทุนซื้อเครื่องจักร หรือซ่อมแซม เพื่อให้กิจการดำเนินต่อไปได้ ส่วนที่สอง ภาครัฐ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นด้วยในโครงการบ้าน และรถยนต์คันแรก รวมไปถึงยังมีเงินจากสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) และส่วนสุดท้าย สินเชื่อในส่วนของภาคธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) โดยเฉพาะสินเชื่อไปลงทุนนอกประเทศที่มีมูลค่า 3 แสนล้านบาท ตลอดทั้งปีก่อน และคาดว่าในปีนี้ตัวเลขใกล้เคียงกัน
“ดูแค่ปริมาณ หรือการเติบโตที่สูงขึ้นของสินเชื่อไม่ได้ต้องดูเหตุผลประกอบด้วย ซึ่งอย่าลืมว่าเกิดเหตุการณ์ผิดปกติจากปัญหาน้ำท่วมในปีก่อน ทำให้มีปัจจัยแตกต่างกับปีก่อนๆ จึงดูสถานการณ์ได้ยาก แต่เท่าที่ดูในฐานะผู้ตรวจ พบว่า ปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทั้งสัดส่วน และมูลค่าไม่ได้ทะยานเพิ่มขึ้นจนเป็นตัวเลขที่น่าวิตก อีกทั้งมาตรฐานการให้สินเชื่อโดยรวมไม่ได้ลดลง แต่ประชาชน หรือภาคธุรกิจมีภาระการชำระหนี้เพิ่มขึ้น เช่น จากเดิมรายได้ต่อหนี้อยู่ที่ 4 เท่า แต่ขณะนี้ลดลงเหลือ 2 เท่า เป็นต้น”
รองผู้ว่าการ ธปท.กล่าวเพิ่มเติมว่า ธปท.ยังคงจับตาเป็นพิเศษในส่วนของสินเชื่อ 3 กลุ่ม คือ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์มองว่าในไตรมาส 3 และ 4 น่าจะเติบโตมากขึ้น เนื่องจากเริ่มมีการส่งมอบรถยนต์ที่จองไว้จำนวนมาก หลังจากที่การผลิตลดลงในช่วงน้ำท่วม และโครงการรถยนต์คันแรกจะหมดเขตในช่วงสิ้นปี ทำให้คาดว่าสินเชื่อรถยนต์จะขยับสูงขึ้นอีกในครึ่งปีหลัง