ก.ล.ต. เปิดตัวโครงการหุ้นกู้ SMEs สนับสนุนธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็กเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมรับความรู้เกี่ยวกับตลาดทุนและการระดมทุนในตลาดทุน โดยเป็นความร่วมมือกับอีก 8 หน่วยงาน อันได้แก่ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange: BEX) สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย เสนอสิทธิประโยชน์แก่บริษัทที่สมัครเข้าร่วมโครงการภายในธันวาคม 2555 นี้
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ปัจจุบัน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SMEs ถือเป็นเส้นเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย การสร้างทางเลือกในตลาดทุนให้ SMEs มีโอกาสเติบโตถือเป็นภารกิจหนึ่งของ ก.ล.ต. ในครั้งนี้ ก.ล.ต. เห็นว่า การระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้รวมถึงตั๋วเงินจะเป็นการเพิ่มโอกาส และช่องทางในการขยายธุรกิจของ SMEs ได้
นอกจากนี้ ก่อนออกหุ้นกู้หรือตั๋วเงิน บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรมความรู้เกี่ยวกับตลาดทุน และการระดมทุนวิธีต่างๆ เช่นเดียวกับโครงการหุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัด และสามารถขอเข้ารับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับน่าเชื่อถือด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าปกติ ซึ่งผลการจัดอันดับที่ได้ นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการปรับปรุงบริษัทต่อไปแล้ว ยังจะช่วยให้ SMEs มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากผู้ที่ทำธุรกิจด้วย เช่น เจ้าหนี้ ลูกหนี้ และลูกค้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ที่จะช่วยทำให้ GDP ของประเทศเติบโตขึ้น
โครงการหุ้นกู้ SMEs นี้ ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะลดค่าธรรมเนียมการจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้แก่บริษัทที่เข้าโครงการตามเงื่อนไขที่กำหนด สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยจะลดค่ายื่นคำขอขึ้นทะเบียนตราสารหนี้ ค่าขึ้นทะเบียนตราสารหนี้รายปี และค่าอบรม ตลาดตราสารหนี้ (BEX) สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะสนับสนุนให้ความรู้ และเผยแพร่โครงการให้บริษัทจดทะเบียนขนาดกลาง และขนาดเล็กเข้าร่วมโครงการ ในขณะที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทยจะเป็นช่องทางกระจายความรู้เกี่ยวกับโครงการไปยัง SMEs ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ ในส่วนของ ก.ล.ต. จะยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นคำขออนุญาต และลดค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลลงครึ่งหนึ่งสำหรับการยื่นแบบครั้งแรกของการเสนอขายหุ้นกู้
ทั้งนี้ บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็น (1) บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย แต่ไม่รวมถึงสถาบันการเงิน หรือผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน และ (2) มีสินทรัพย์ตามงบการเงินปีล่าสุดไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ณ วันที่สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 28 ธันวาคม 2555 สำหรับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการและยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นกู้ หรือตั๋วเงินตามหลักเกณฑ์ภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนธันวาคม 2556 จะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมในส่วนของ ก.ล.ต. และสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยข้างต้น”
นายวรพล กล่าวต่อว่า “เป้าหมายของการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. คือ ต้องการเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจอันเกิดจากการทำมาค้าขายของภาคธุรกิจ ก.ล.ต. จึงจัดหาโอกาสที่จะเอื้อให้ภาคธุรกิจเข้าถึงแหล่งทุนในตลาดทุนได้โดยสะดวก แต่ยังคงรักษาระดับของการคุ้มครองผู้ลงทุนตามมาตรฐานปกติ สำหรับโครงการหุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัดที่ปิดรับสมัครไปก่อนหน้านี้ มีบริษัทที่สนใจสมัครเข้ามาถึง
104 บริษัท จาก 34 จังหวัด และกระจายอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งหลายบริษัทมีศักยภาพที่จะระดมทุนได้ด้วยการออกหุ้น และทุกบริษัทจะได้รับการอบรมความรู้เรื่องตลาดทุน
ในส่วนของ SMEs นอกเหนือจากโครงการหุ้นกู้ SMEs แล้ว ก.ล.ต. ยังได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจเกิดใหม่ได้รู้จัก Private Equity (PE) ซึ่งเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้ที่สนใจ และเห็นโอกาสนำเงินมาร่วมลงทุนในกิจการ จึงทำให้กิจการที่มีศักยภาพหรือมีเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมมีโอกาสได้เงินทุนซึ่งจะช่วยสร้างให้ธุรกิจเติบโตได้ โดย ก.ล.ต. จะจัดสัมมนา “Private Equity พันธมิตรของกิจการสู่การเติบโต” ในวันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2555 เวลา 08.30-12.00 น. ณ ห้องแกรนด์ ฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน ถนนวิทยุ จึงขอเชิญ SMEs ร่วมงานสัมมนาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย”
สำหรับบริษัทที่สนใจเข้า “โครงการหุ้นกู้ SMEs” สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.sec.or.th/smebond หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2263-6000 กด 2 และผู้ที่สนใจเข้าฟังสัมมนา “Private Equity พันธมิตรของกิจการสู่การเติบโต” สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่โทรศัพท์ 0-2263-6108