xs
xsm
sm
md
lg

IHL มั่นใจปีนี้ผลงานเติบโตโดดเด่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“องอาจ” มั่นใจปีนี้ “อินเตอร์ไฮด์” สร้างผลงานเด่น หลังครึ่งปีกำไรทะลุ 146 ล้านบาท จากปีก่อนทั้งปีมีกำไร 148 ล้านบาท แถมครึ่งปีหลังยังมีสัญญาณเติบโตต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และการเติบโตของธุรกิจรองเท้า ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อจาก WWW ผู้ผลิตรองเท้าหนังชั้นนำของโลก เพิ่มอีก 100% จึงมั่นใจปั๊มรายได้ปีนี้เติบโต 25-30% ได้ตามเป้า บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.15 บ./หุ้น

นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบาะหนังรถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในครึ่งปีหลังว่า คาดว่าจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากค่ายรถยนต์ชั้นนำ เช่น โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน ฟอร์ด มิตซูบิชิ อีซูซุ และมาสด้า เร่งเดินสายการผลิตเต็มกำลัง เพื่อผลิตรถยนต์ส่งมอบให้ทันตามคำสั่งซื้อจากลูกค้า อีกทั้งรัฐบาลขยายเวลาใช้สิทธิจองซื้อรถยนต์คันแรกจนถึงสิ้นปีนี้ และยังได้ขยายเวลายื่นเอกสารหลักฐานตามโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก ออกไปอีก 90 วัน หลังจากรับมอบรถ ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในฐานะเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายเบาะหนังรถยนต์ให้ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำในทิศทางเดียวกันด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อจาก Wolverine World Wide,Inc., a Delaware Corporation (WWW) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรองเท้าหนังแบรนด์ชั้นนำของโลก เช่น Hush Puppies, HARLEY-DAVIDSON, CUSHE, MERRELL เป็นต้น เพิ่มอีก 100% ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สนับสนุนให้ผลประกอบการของ IHL เติบโตเพิ่มขึ้นชัดเจน จึงมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 25-30% ตามเป้าหมายที่วางไว้

“ครึ่งปีหลังเรายังมั่นใจว่าธุรกิจจะยังเติบโตได้ดี ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มียอดผลิตทำลายสถิติเป็นว่าเล่น ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการทั้งปีเติบโตโดดเด่นตามไปด้วย เพราะแค่ครึ่งปีแรก เราทำกำไรแล้วกว่า 146 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่เราทำกำไรทั้งปี 148 ล้านบาท ดังนั้น ที่เราตั้งเป้าหมายทั้งปีจะทำรายได้เติบโต 25-30% ก็คงไม่มีปัญหา ส่วนกำไรก็คงโตไปตามรายได้” นายองอาจกล่าว

ทั้งนี้ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2555 (เมษายน- มิถุนายน) 2555 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 455 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งมีรายได้รวม 346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.4% เนื่องจากไตรมาส 2/2554 บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ยอดขายลดลง ในขณะที่ในไตรมาส 2/2555 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดขายเติบโตตามภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ในไตรมาสเดียวกันบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 62.4 ลบ. เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 29.2 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 33.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 113.7 เนื่องจากในไตรมาส 2/2555 บริษัทฯ มีการพัฒนาการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ประกอบกับการที่ยอดขายเพิ่มขึ้น และบริษัทฯ มีการประหยัดจากขนาดการผลิตซึ่งส่งผลทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง

สำหรับการเติบโตอย่างโดดเด่นของทั้งรายได้ และกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/2555 ได้สนับสนุนให้ผลประกอบการประจำงวด 6 เดือนเติบโตโดดเด่นไปในทิศทางเดียวกัน โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 891.3 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งมีรายได้รวม 807.1 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 146.1 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งกำไรสุทธิอยู่ที่ 87.9 ล้านบาท และจากผลการดำเนินงานประจำงวด 6 เดือน (มกราคม-มิถุนายน 2555) ที่ออกมาเติบโตอย่างโดดเด่นดังกล่าว

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2555 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2555 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 กันยายน 2555


กำลังโหลดความคิดเห็น