xs
xsm
sm
md
lg

ก.ล.ต. ปูทาง “เออีซี” จับตา “ไอเอ็มเอฟ” อุ้มอียู “บจ.” ไม่ประมาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วรพล โสคติยานุรักษ์
ก.ล.ต. เตรียมพร้อม 4 ด้าน ปูทางนักลงทุนสู่ AEC พร้อมตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน คลายกฎระเบียบ โฮลดิ้ง คอมพานี เพื่อให้คนไทยถือหุ้นในบริษัทต่างประเทศ เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พัฒนาตลาดทุน ส่วนการรับมือ ศก.โลก จับตา IMF ออกมาตรการช่วยยุโรปเพิ่ม ย้ำตลาดทุนพร้อมรับมือความผันผวน มองไทยควรเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยลดก่อหนี้สาธารณะประเทศ ศก.มั่นคง ขณะที่นายกสมาคม บจ. แนะสมาชิกจับตา ศก.ยุโรป-จีน ห่วงยืดเยื้อกระทบธุรกิจ

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวในหัวข้อการกำกับดูแลตลาดทุนภายใต้การเปิด AEC ในงานสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยระบุว่า ก.ล.ต. ได้เตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ใน 4 ด้านคือ การสร้างโอกาสทางการเงิน การเตรียมเครื่องมือบริหารความเสี่ยง ยกระดับตลาดทุนและสร้างประสิทธิภาพ พร้อมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดทุน ทั้งการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ออกกฎเกณฑ์โฮลดิ้ง คอมพานี เพื่อให้บริษัทไทยสามารถไปถือหุ้นในบริษัทต่างประเทศได้

นอกจากนี้ ยังเตรียมการออกกฎหมายควบรวมกิจการ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกา การจัดตั้งกองทุน REIT (Real Estate Investment Trust) เพื่อให้พัฒนาการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงส่งเสริมความรู้ทางด้านการเงินที่ครอบคลุมการพัฒนาผู้ลงทุนทุกระดับ และการซื้อขายหุ้นเชื่อมโยงตลาดหุ้นในอาเซียน ที่จะเริ่มขึ้นได้ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ทั้งนี้ มองว่า AEC จะเป็นโอกาสให้แก่ประเทศไทยได้มากขึ้น

นายวรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดทุนไทยมีความพร้อมรับมือกับความผันผวนจากวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป เพราะบริษัทจดทะเบียนมีความแข็งแกร่ง และปรับตัวได้ดีจากวิกฤติต่างๆ ที่ผ่านมา เช่น ซับไพรม์ ซึ่งเห็นได้จากกำไรบริษัทจดทะเบียนที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีทุนสะสมจำนวนมาก ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวหลังผ่านปัญหาน้ำท่วม ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ทั้งนี้ ในระยะต่อไป ก.ล.ต. ยังคงจับตากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่าจะมีมาตรการออกความช่วยเหลือกลุ่มยุโรปเพิ่มเติมอย่างไร ซึ่งตลาดทุนต้องเผชิญกับความผันผวนเป็นระยะตามทิศทางของกระแสข่าวที่เกิด

นอกจากนี้ ยังเห็นว่าประเทศไทยควรจะเร่งให้ความสำคัญกับการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพราะจะช่วยลดการก่อหนี้สาธารณะ และทำให้เศรษฐกิจมีความมั่นคงมากขึ้น

ด้านนายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ได้กล่าวว่า วิกฤตยุโรปและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง เป็นเรื่องที่สมาคมส่งสัญญาณเตือนไปยังสมาชิกให้ระมัดระวังมากขึ้น เพราะมองว่าปัญหาจะยังคงมีความยืดเยื้อ และต้องเตรียมความพร้อมในการปรับตัวรองรับต่อวิกฤต โดยที่ในส่วนของบ้านปู ได้มีการปรับแผนการลงทุน โดยลดเงินลงทุนร้อยละ 30 ในช่วง 3 ปีข้างหน้า หรือคิดเป็นมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการรองรับภาวะถ่านหินในตลาดโลกที่อ่อนตัวลงร้อยละ 25-30

นอกจากนี้ ในส่วนของการเตรียมความพร้อมการรับเปิด AEC ทางสมาคมได้เตรียมความพร้อมให้แก่สมาชิก โดยการฝึกอบรมผู้บริหารรับ AEC เป็นการเสริมความรู้สร้างความแข็งแกร่ง ซึ่งในด้านภาษานั้น นอกจากจะส่งเสริมภาษาอังกฤษแล้ว ยังส่งเสริมภาษาบางภาษาของอินโดนีเซีย และมาเลเซีย รวมถึงภาษาจีนเพื่อให้มีความคล่องตัวในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น