“ริช เอเชีย สตีล”รุกขาย RO ผู้ถือหุ้น หวังระดมทุน 1,000 ล้าน ลงทุนบริษัทย่อยรองรับการเติบโตจากดีมานด์ที่มีสูงในประเทศ และโครงการขนาดใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้าน คาดรายได้ปี 56 โตกว่า 8,000 ล้านบาท จากการขยายกำลังผลิต และงานที่ได้รับ มั่นใจปีนี้ภาพรวมเป็นบวกแม้ครึ่งแรกติดลบ
น.ส.อังคกาณจน์ ตันติวิรุฬห์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ริช เอเชีย สตีล (RICH) เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,000 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ0.50 บาท ในวันที่ 20-24 ส.ค.นี้ ซึ่งถ้าขายได้หมดจะได้เงินระดมทุน 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ RICH มีแผนนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปขยายกำลังการผลิตใน 2 บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท สยาม เฟอร์โร อินดัสทรี จำกัด ทำธุรกิจผลิตท่อเหล็กจาก 3,000 ตัน เป็น 40,000 ตัน และบริษัท ไทยเนชั่นแนล โปรดัคท์ จำกัด (TNP) ทำธุรกิจผลิตเสาเข็มกลมแรงเหวี่ยง ที่ต้องการเพิ่มกำลังผลิตเป็น 15,000-20,000 ตัน จากปัจจุบัน 12,000 ตัน
โดยในด้านผลดำเนินงาน ผู้บริหารยืนยันว่า แม้จะมีการขาดทุนในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลัง จะฟื้นเป็นบวก และทำตัวเลขได้ดีขึ้น จากเป้ารายได้รวมปีนี้ที่คาดไว้ 5,000 ล้านบาท ส่วนภายหลังการเพิ่มทุน 1,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทในปี 2556 เพิ่มเป็น 8,000 ล้านบาท
“เราเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ จากเทรดดิ้งเป็นผลิต และจำหน่ายเอง TNP ถือเป็นผู้ผลิตเสาเข็มกลมแรงเหวี่ยงที่มีขนาดกำลังผลิตใหญ่สุดในอาเซียน ตอนนี้ ก็มีคำสั่งซื้อรองรับอยู่แล้ว 500 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทได้เสนอราคาในโครงการต่างๆ ไปแล้ว 51 โครงการ มูลค่าเฉพาะเสาเข็มรวมกันประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้งานประมาณ 20% หรือ 1,600 ล้านบาท”
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ทวาย ประเทศพม่า ซึ่งต้องการให้บริษัทเข้ามารับงานด้านเสาเข็ม เพราะคุณภาพของเสาเข็มที่บริษัทผลิตเป็นเสาเข็มที่สามารถรองรับแรงแผ่นดินไหวได้ดี ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะเริ่มได้ในช่วงปลายปีนี้ ขณะเดียวกัน ยังมีงานจากเวียดนามในโครงการปิโตรเคมีที่แสดงความสนใจให้บริษัทเข้าไปดำเนินการ มูลค่าเฉพาะเสาเข็มประมาณ 5,000 ล้านบาท และโครงการโรงไฟฟ้าที่อินเดีย ขนาด 500 เมกะวัตต์ จำนวน 10 โรง มูลค่างานเสาเข็มประมาณ 2,000 ล้านบาท (เฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อ 1 โครงการ)
“หากเราได้งานจากทั้ง 3 โครงการนี้ จะช่วยให้เราเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาวถึง 10 ปี ภาพรวมธุกริจเหล็กหลายคนมองอยู่ในช่วงไม่ดี แต่ก็ถือเป็นโอกาสต่อการดำเนินธุรกิจได้ ปีนี้ บริษัทเหล็กหลายรายมีการเพิ่มทุน ก็เพราะเขามองเห็นโอกาสที่จะเติบโตเช่นเดียวกับเรา” ซีอีโอ RICH กล่าว
น.ส.อังคกาณจน์ ตันติวิรุฬห์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ริช เอเชีย สตีล (RICH) เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,000 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ0.50 บาท ในวันที่ 20-24 ส.ค.นี้ ซึ่งถ้าขายได้หมดจะได้เงินระดมทุน 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ RICH มีแผนนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปขยายกำลังการผลิตใน 2 บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท สยาม เฟอร์โร อินดัสทรี จำกัด ทำธุรกิจผลิตท่อเหล็กจาก 3,000 ตัน เป็น 40,000 ตัน และบริษัท ไทยเนชั่นแนล โปรดัคท์ จำกัด (TNP) ทำธุรกิจผลิตเสาเข็มกลมแรงเหวี่ยง ที่ต้องการเพิ่มกำลังผลิตเป็น 15,000-20,000 ตัน จากปัจจุบัน 12,000 ตัน
โดยในด้านผลดำเนินงาน ผู้บริหารยืนยันว่า แม้จะมีการขาดทุนในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลัง จะฟื้นเป็นบวก และทำตัวเลขได้ดีขึ้น จากเป้ารายได้รวมปีนี้ที่คาดไว้ 5,000 ล้านบาท ส่วนภายหลังการเพิ่มทุน 1,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทในปี 2556 เพิ่มเป็น 8,000 ล้านบาท
“เราเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ จากเทรดดิ้งเป็นผลิต และจำหน่ายเอง TNP ถือเป็นผู้ผลิตเสาเข็มกลมแรงเหวี่ยงที่มีขนาดกำลังผลิตใหญ่สุดในอาเซียน ตอนนี้ ก็มีคำสั่งซื้อรองรับอยู่แล้ว 500 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทได้เสนอราคาในโครงการต่างๆ ไปแล้ว 51 โครงการ มูลค่าเฉพาะเสาเข็มรวมกันประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าน่าจะได้งานประมาณ 20% หรือ 1,600 ล้านบาท”
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ทวาย ประเทศพม่า ซึ่งต้องการให้บริษัทเข้ามารับงานด้านเสาเข็ม เพราะคุณภาพของเสาเข็มที่บริษัทผลิตเป็นเสาเข็มที่สามารถรองรับแรงแผ่นดินไหวได้ดี ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะเริ่มได้ในช่วงปลายปีนี้ ขณะเดียวกัน ยังมีงานจากเวียดนามในโครงการปิโตรเคมีที่แสดงความสนใจให้บริษัทเข้าไปดำเนินการ มูลค่าเฉพาะเสาเข็มประมาณ 5,000 ล้านบาท และโครงการโรงไฟฟ้าที่อินเดีย ขนาด 500 เมกะวัตต์ จำนวน 10 โรง มูลค่างานเสาเข็มประมาณ 2,000 ล้านบาท (เฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อ 1 โครงการ)
“หากเราได้งานจากทั้ง 3 โครงการนี้ จะช่วยให้เราเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาวถึง 10 ปี ภาพรวมธุกริจเหล็กหลายคนมองอยู่ในช่วงไม่ดี แต่ก็ถือเป็นโอกาสต่อการดำเนินธุรกิจได้ ปีนี้ บริษัทเหล็กหลายรายมีการเพิ่มทุน ก็เพราะเขามองเห็นโอกาสที่จะเติบโตเช่นเดียวกับเรา” ซีอีโอ RICH กล่าว