“ปกรณ์” มั่นใจครึ่งปีหลัง L&E สร้างผลงานเติบโตต่อเนื่อง หลังภาครัฐ และเอกชนตื่นตัว และหันมา
สนใจกับกระแสการรณรงค์การใช้สินค้าประหยัดพลังงานของภาครัฐ กอปรกับมีความพร้อมด้านโรงงานผลิต สามารถขยายธุรกิจในทุกช่องทางได้อย่างคล่องตัว เชื่อปีนี้ ยังทำผลงานเข้าเป้ารายได้โต 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 2,024 ล้านบาท
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้า และอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจโคมไฟฟ้า และอุปกรณ์แสงสว่างในครึ่งปีหลังว่า ยังมีทิศทางเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งงานโครงการ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และส่งออก ตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจ ประกอบกับรัฐบาล โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีนโยบายรณรงค์ และส่งเสริมการประหยัดพลังงานในช่วงต้นปีอย่างจริงจัง ด้วยการสนับสนุนให้เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ และโคมไฟฟ้าประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น ซึ่งจากนโยบายดังกล่าว ทำให้หลายหน่วยงาน รวมถึงภาคเอกชนได้ตื่นตัว และมีโครงการเปลี่ยนมาใช้สินค้าประหยัดพลังงาน ส่งผลให้มีงานโครงการในลักษณะดังกล่าวเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
โดย L&E ในฐานะผู้นำในธุรกิจโคมไฟฟ้า และอุปกรณ์แสงสว่างในภูมิภาคอาเซียน พร้อมรองรับทุกโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากที่บริษัทฯ ได้ลงทุนในส่วนการผลิต การพัฒนาสินค้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยไปมากกว่า 300 ล้านบาท ทำให้ส่วนการผลิตมีความแข็งแกร่ง สามารถพัฒนาสินค้าไฮเทคโนโลยีลงสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้สอดคล้องกับตลาด และความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
“มั่นใจว่าครึ่งปีหลังนี้ ธุรกิจจะยังเติบโตได้ดีตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจ และความต้องการเปลี่ยนหลอดไฟฟ้ามาเป็นหลอดประหยัดไฟตามนโยบายของรัฐบาล ประกอบกับ เรามีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากด้านการผลิต จะทำให้สามารถขยายตลาดได้อย่างคล่องตัวในทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหลังจากนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายจะขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางขึ้น ครอบคลุมครบทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มลูกค้าโครงการของทั้งภาครัฐ และเอกชน กลุ่มธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ส่งออก และกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคทั่วไป และสิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ L&E สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งในปีนี้ และระยะ 3-5 ปีข้างหน้า” นายปกรณ์ กล่าว
บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% จากการขยายตัวเพิ่มขึ้นของงานโครงการ และการขยายไปยังศูนย์การค้า ซูเปอร์สโตร์ โชว์รูม และร้านค้าย่อยต่างๆ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เตรียมเปิดโชว์รูมอีก 1 แห่ง ในปีนี้ที่บุญถาวรเกษตร-นวมินทร์ จากปัจจุบัน มีโชว์รูม 1 แห่ง บนถนนรัชดาภิเษก เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง L&E ได้สะดวกยิ่งขึ้น ดังนั้น เป้าหมายผลักดันยอดขายให้ทะลุ 4,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า จึงยังคงเป็นไปตามนโยบายที่วางไว้
โดย L&E รายงานจากผลประกอบการของบริษัทฯ ไตรมาส 2/2555 จากงบรวม บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมเป็นเงิน 472 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 14% เป็นผลมาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของงานโครงการ เช่น ศูนย์การค้า ซูเปอร์สโตร์ โชว์รูม และร้านค้าย่อยต่างๆ รวมถึงการรณรงค์ของรัฐให้ใช้หลอดไฟ T5 ส่งผลให้ยอดขายของหลอดไฟ และบัลลาสต์ T5 ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่จากงบรวมในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมเป็นเงิน 2.8 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าเป็นเงิน 10 ล้านบาท เป็นผลจากอัตรากำไรเบื้องต้นที่ลดลงเหลือ 24% ในไตรมาสนี้ เทียบกับ 29% ในปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ สาเหตุหลักคือ เพื่อเป็นการร่วมมือกับภาครัฐ กล่าวคือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ได้มีการจัดโครงการกระตุ้น และรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนตื่นตัว และหันมาสนใจในการใช้สินค้าประหยัดพลังงานในช่วงต้นปี ซึ่ง L&E ได้เข้าร่วมโครงการนี้โดยยอมขายสินค้าในกลุ่มดังกล่าวในอัตรากำไรที่ต่ำกว่าปก ติเฉพาะในช่วงระยะการรณรงค์เท่านั้น ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ กำไรเบื้องต้นลดลงกว่าปกติ หลังจากนี้ไปอัตรากำไรเบื้องต้นจะกลับมาสู่ปกติ ส่วนผลกระทบจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ส่งผลเพียงเล็กน้อยกับต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น แต่บริษัทฯ ไม่สามารถปรับราคาขายได้ทันที เพราะมีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอยู่แล้ว และเชื่อว่าในครึ่งปีหลัง อัตรากำไรเบื้องต้นจะเข้าสู่ปกติ