บล.กสิกรไทยเร่งเครื่องขยายฐานลูกค้า เบนเข็มเจาะตลาดต่างจังหวัด ชี้การเติบโตยังมีอีกมาก มั่นใจหลังได้พาร์ตเนอร์คุณภาพ “แมคควอรี่” เป้ามาร์เกตแชร์ทั้งปี 8% ทำได้แน่ มองหุ้นไทยระยะยาว ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนหนุนดัชนีแตะ 1,350 จุด
นางณัฐรินทร์ ตาลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังตั้งเป้ามาร์เกตแชร์ในปีนี้ที่ 8% หลังครึ่งปีแรกมีมาร์เกตแชร์อยู่ที่ 5.59% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.59% โดยหากทำได้ตามเป้าที่วางไว้ จะส่งผลให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ในธุรกิจโบรกเกอร์
ขณะเดียวกัน บล.กสิกรไทย คาดว่า รายได้ในปีนี้จะอยู่ประมาณ 1,804 ล้านบาท เติบโต 35% จากปี 2554 ที่มีรายได้ 1,300 ล้านบาท ภายใต้มูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยเฉลี่ย 29,000 ล้านบาท/วัน โดยสัดส่วน 81% มาจากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และอีก 12% มาจากธุรกิจวาณิชธนกิจ และอื่นๆ อีก 7%
“การตั้งเป้ามาร์เกตแชร์ปีนี้กระโดดเป็น 8% เป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่เพราะมีการร่วมมือกับแมคควอรี่ ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ที่ดี ทำให้เรามีออเดอร์จากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทมีแผนรุกขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น จึงทำให้เรามั่นใจปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมาย” นางณัฐรินทร์กล่าว
โดยในปีนี้ บล.กสิกรไทย เตรียมเปิดสาขาใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ครบตามเป้าหมาย 52 แห่งภายในสิ้นปี แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 14 สาขา และต่างจังหวัด 10 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 28 สาขา เพื่อให้ครอบคลุมการบริการทุกภูมิภาค และเพื่อเดินหน้ากลยุทธ์การเพิ่มลูกค้าใหม่ในต่างจังหวัด หลังจากที่ผ่านมาพบว่า มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น ยอดบัญชีเปิดใหม่กว่า 80% มาจากสาขาเชียงใหม่ และพัทยา ส่วนอีก 20% มาจากสาขาภูเก็ต ที่มีอยู่ 2 สาขา และสาขาอุดรธานี ขณะเดียวกัน บริษัทจะหันมาขยายฐานนักลงทุนผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเทรดดิ้ง ที่มียอดผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ในส่วนจำนวนบัญชีลูกค้าใหม่ บล.กสิกรไทย ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นอีก 13,360 บัญชี จากครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 3,426 บัญชี โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนลูกค้าสถาบัน 60% แบ่งเป็นต่างประเทศ 48% และในประเทศ 12% ขณะที่ลูกค้ารายย่อยมีสัดส่วน 40% และเตรียมเพิ่มเจ้าหน้าที่การตลาดเป็น 390 คนในสิ้นปีนี้
สำหรับธุรกิจวาณิชนธนกิจ (IB) ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ 10 ดีล โดยในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 210 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 195 ล้านบาท และภายในครึ่งปีหลัง จะมี 4 ดีลที่จะแล้วเสร็จ แบ่งเป็นดีล IPO 1 ดีล และM&A อีก 3 ดีล ส่วนที่เหลือจะแล้วเสร็จภายในปี 2556
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างเตรียมความพร้อมในการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์(DW) ในช่วงไตรมาส 4/55 โดยขณะนี้ รอผลการจัดอันดับเครดิตองค์กร คาดว่า จะประกาศได้ในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้น บริษัทจะพิจารณารายละเอียดการออก DW ต่อไป
นางณัฐรินทร์ กล่าวถึงแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ว่า ในระยะสั้น สหรัฐฯ ได้รับอานิสงส์จากบริษัทใหญ่ๆ เช่น โกลด์แมน แซคส์ และโคคา โคล่า ประกาศผลประกอบการดีกว่าที่คาด ทำให้ตลาดหุ้นเป็นบวก แต่ตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหว sideway เพราะไม่มีปัจจัยลบแรงๆ เข้ามากระทบ แต่นักลงทุนยังต้องระมัดระวังการลงทุน โดยระยะกลางจนถึงสิ้นปีนี้ ยังมองแนวโน้มตลาดเป็นบวก คาดว่าจะดีดตัวขึ้นไปได้ถึง 1,350 จุด เพราะยังมีปัจจัยบวกสนับสนุน โดยเฉพาะผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะออกมาดี