หมดปัจจัยระทึก
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยแตกแยกกับตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งเพื่อนบ้านย่านเอเชีย เพราะขึ้นลงหวือหวา ขณะที่ตลาดหุ้นทั้งโลกมีลักษณะประคับประคองตัว โดยความหวือหวาเกิดจากการคาดเดาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีมาตรา 68 ทำให้ทั้งเกิดความกลัว และเกิดการเก็งกำไร แต่สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยออกมาในด้านบวกต่อตลาดหุ้น ทำให้บรรยากาศการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ ร้อนแรงขึ้นทันตา จนดัชนีสร้างจุดสูงสุดใหม่ของรอบ
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,210.29 จุด เพิ่มขึ้น 17.16 จุด มูลค่าซื้อขาย 24,904 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขาย 1,121 ล้านบาท
คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้ความร้อนแรงทางการเมืองดับลง ถือเป็นข่าวดีที่กระตุ้นตลาดให้ดีดตัวแรง แต่ก็เป็นข่าวดีระยะสั้น โดยตลาดหุ้นวันศุกร์ซึมซับไปหมดแล้ว นักลงบทุนไม่มีเรื่องต้องรอคอยด้วยความระทึกอีกแล้ว ส่วนภาวะตลาดจะกลับสู่สภาพเดิม โดยแนวโน้มจะเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นโลก หรือปัจจัยภายนอกเป็นตัวชี้นำ
สถานการณ์ปัจจัยภายนอก เมื่อคืนวันศกุร์ค่อนข้างสดใส เพราะตลาดหุ้นยุโรปบวกกว่า 1%ขณะที่ดาวโจนส์พุ่งขึ้น 203 จุดราคาน้ำมันขึ้นมายืนที่ระดับ 87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง และจะเป็นแรงหนุนให้ตลาดหุ้นไทยเดินหน้าต่อ เพียงแต่ระดับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปขานรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จึงไม่อาจประเมินได้ว่าราคาหุ้นจะสะท้อนรับข่าวเชิงบวกจากภายนอกได้ขนาดไหน
สัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าตลาดหุ้นไทยล้ำหน้าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านย่านเอเชีย โดยไม่มีปัจจัยสนับสนุนในเชิงพื้นฐาน ดังนั้น ข่าวดีจากภายนอกอาจผลักดันให้ราคาหุ้นขยับได้ไม่เท่าไหร่ หรือขยับแรงก็อาจถูกเทขาย เพราะแรงซื้อในรอบสัปดาห์เป็นแรงซื้อเพื่อดักเก็งกำไรระยะสั้น ถ้าหุ้นขึ้นต่อ คนที่ช้อนซื้อสัปดาห์ก่อนคงพร้อมจะขายทำกำไร
ดังนั้น หากราคาหุ้นทะยานขึ้นต่อก็ไม่ควรไล่ ส่วนคนที่มีหุ้นอยู่คงต้องคิดหนักว่าควรขายหรือยัง เพราะราคาหุ้นเริ่มไม่ถูกแล้ว และดัชนีก็ไม่น่าจะไปจากระดับ 1,210 จุดอีกมากนัก
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยแตกแยกกับตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งเพื่อนบ้านย่านเอเชีย เพราะขึ้นลงหวือหวา ขณะที่ตลาดหุ้นทั้งโลกมีลักษณะประคับประคองตัว โดยความหวือหวาเกิดจากการคาดเดาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีมาตรา 68 ทำให้ทั้งเกิดความกลัว และเกิดการเก็งกำไร แต่สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยออกมาในด้านบวกต่อตลาดหุ้น ทำให้บรรยากาศการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ ร้อนแรงขึ้นทันตา จนดัชนีสร้างจุดสูงสุดใหม่ของรอบ
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,210.29 จุด เพิ่มขึ้น 17.16 จุด มูลค่าซื้อขาย 24,904 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขาย 1,121 ล้านบาท
คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้ความร้อนแรงทางการเมืองดับลง ถือเป็นข่าวดีที่กระตุ้นตลาดให้ดีดตัวแรง แต่ก็เป็นข่าวดีระยะสั้น โดยตลาดหุ้นวันศุกร์ซึมซับไปหมดแล้ว นักลงบทุนไม่มีเรื่องต้องรอคอยด้วยความระทึกอีกแล้ว ส่วนภาวะตลาดจะกลับสู่สภาพเดิม โดยแนวโน้มจะเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นโลก หรือปัจจัยภายนอกเป็นตัวชี้นำ
สถานการณ์ปัจจัยภายนอก เมื่อคืนวันศกุร์ค่อนข้างสดใส เพราะตลาดหุ้นยุโรปบวกกว่า 1%ขณะที่ดาวโจนส์พุ่งขึ้น 203 จุดราคาน้ำมันขึ้นมายืนที่ระดับ 87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง และจะเป็นแรงหนุนให้ตลาดหุ้นไทยเดินหน้าต่อ เพียงแต่ระดับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปขานรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จึงไม่อาจประเมินได้ว่าราคาหุ้นจะสะท้อนรับข่าวเชิงบวกจากภายนอกได้ขนาดไหน
สัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าตลาดหุ้นไทยล้ำหน้าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านย่านเอเชีย โดยไม่มีปัจจัยสนับสนุนในเชิงพื้นฐาน ดังนั้น ข่าวดีจากภายนอกอาจผลักดันให้ราคาหุ้นขยับได้ไม่เท่าไหร่ หรือขยับแรงก็อาจถูกเทขาย เพราะแรงซื้อในรอบสัปดาห์เป็นแรงซื้อเพื่อดักเก็งกำไรระยะสั้น ถ้าหุ้นขึ้นต่อ คนที่ช้อนซื้อสัปดาห์ก่อนคงพร้อมจะขายทำกำไร
ดังนั้น หากราคาหุ้นทะยานขึ้นต่อก็ไม่ควรไล่ ส่วนคนที่มีหุ้นอยู่คงต้องคิดหนักว่าควรขายหรือยัง เพราะราคาหุ้นเริ่มไม่ถูกแล้ว และดัชนีก็ไม่น่าจะไปจากระดับ 1,210 จุดอีกมากนัก
