กระทิงจริงหรือไม่
หยุดพักผ่อนวันแรงงานไปเมื่อวาน วันนี้เปิดตลาดใหม่ท่ามกลางการรอคอยพิสูจน์ว่า ตลาดหุ้นรอบนี้จะปรับตัวสู่ช่วงขาขึ้นระยะสั้นเต็มตัวหรือิไม่ หลังจากเมื่อวันจันทร์บรรยากาศการซื้อขายก้าวเข้าสู่ภาวะกระทิงเต็มตัว ดัชนีพุ่งทะยานสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปี พร้อมกับสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่า ตลาดมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อีก แม้จะไม่มีปัจจัยสนับสนุนอย่างชัดเจนก็ตาม
ตลาดหุ้นโลกยังมีลักษณะทรงตัว ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อคืนวันอังคารเพิ่มขึ้น 65 จุด ราคาน้ำมันขยับขึ้นมาที่ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดหุ้นยุโรปบวกลบคละกัน ขณะที่เพื่อนบ้านย่านเอเชียเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ซึ่งถือว่าปัจจัยภายนอกไม่เป็นบวกเป็นลบ ส่วนปัจจัยภายในมีน้ำหนักในเชิงลบมากกว่า โดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อที่มีความวิตกกังวลกันมากขึ้น จะมีข่าวด้านบวกเล็กๆ อยู่บ้างคือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรก ซึ่งยังเหลืออีกบางกลุ่มที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ และอาจกระตุ้นราคาหุ้นรายกลุ่มขึ้นมา
ถ้าประเมินจากสัญญาณทางเทคนิค ตลาดหุ้นมีลุ้นที่จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่ถ้าประเมืนจากปัจจัยแวดล้อมแล้ว ยังไม่แน่ใจว่าหุ้นจะมีแรงเหวี่ยงขึ้นได้อีกหรือไม่ และภาวะกระทิงเมื่อวันจันทร์จะดำเนินต่อเนื่อง หรือเกิดขึ้นชั่วครู่เพียงวันเดียว เพราะแม้ดัชนีจะพุ่งขึ้นถึง 16 จุด แต่ก็ไม่มีเหตุผลสนับสนุนความร้อนแรงที่ชัดเจนไม่ได้ เพียงแต่แรงซื้อต่างชาติยังหนุนอยู่ ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศกลับเข้ามาซื้อ และกลายเป็นแรงขับเคลื่อนตลาดที่สำคัญเท่านั้น
สำหรับนักลงทุนคงจะกำหนดกลยุทธ์ได้ลำบาก เพราะส่วนหนึ่งกลัวพลาดโอกาสทำกำไรช่วงตลาดขาขึ้น อีกส่วนหนึ่งก็กลัวความสูง ไม่แน่ใจว่าดัชนีจะพุ่งม้วนเดียวไปที่ 1,250 จุด ซึ่งหัวเลี้ยวหัวต่อช่วงนี้คงต้องตัดสินใจกันเอง แต่สำหรับคนที่มีกำไร และกำไรมากๆ หากตลาดปรับตัวขึ้นต่ออาจจะเป็นช่วงเวลาการขายที่ดีก็ได้เพราะแม้รอบนี้ยังวิ่งได้ต่อ แต่ก็มองกันที่ 1,250 จุดเท่านั้นซึ่งใกล้จะถึงอยู่แล้ว ช่องว่างทำกำไรจึงเริ่มแคบลง
แต่สาหรับหุ้นรายตัวอาจมีความเคลื่อนไหวที่แตกต่างจากภาพตลาดรวม โดยอาจจะปรับตัวขึ้นหวือหวาโดดเด่นเป็นการเฉพาะ แต่ก็เลือกไม่ถูกว่ากลุ่มไหนตัวไหนจะโดดเด่น และน่าซื้อดัก เพราะหุ้นรายกลุ่มรายตัวก็มีลักษณะหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันขึ้นจนตามไม่ทันเหมือนกัน
หยุดพักผ่อนวันแรงงานไปเมื่อวาน วันนี้เปิดตลาดใหม่ท่ามกลางการรอคอยพิสูจน์ว่า ตลาดหุ้นรอบนี้จะปรับตัวสู่ช่วงขาขึ้นระยะสั้นเต็มตัวหรือิไม่ หลังจากเมื่อวันจันทร์บรรยากาศการซื้อขายก้าวเข้าสู่ภาวะกระทิงเต็มตัว ดัชนีพุ่งทะยานสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 16 ปี พร้อมกับสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่า ตลาดมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อีก แม้จะไม่มีปัจจัยสนับสนุนอย่างชัดเจนก็ตาม
ตลาดหุ้นโลกยังมีลักษณะทรงตัว ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อคืนวันอังคารเพิ่มขึ้น 65 จุด ราคาน้ำมันขยับขึ้นมาที่ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดหุ้นยุโรปบวกลบคละกัน ขณะที่เพื่อนบ้านย่านเอเชียเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ซึ่งถือว่าปัจจัยภายนอกไม่เป็นบวกเป็นลบ ส่วนปัจจัยภายในมีน้ำหนักในเชิงลบมากกว่า โดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อที่มีความวิตกกังวลกันมากขึ้น จะมีข่าวด้านบวกเล็กๆ อยู่บ้างคือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรก ซึ่งยังเหลืออีกบางกลุ่มที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ และอาจกระตุ้นราคาหุ้นรายกลุ่มขึ้นมา
ถ้าประเมินจากสัญญาณทางเทคนิค ตลาดหุ้นมีลุ้นที่จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ แต่ถ้าประเมืนจากปัจจัยแวดล้อมแล้ว ยังไม่แน่ใจว่าหุ้นจะมีแรงเหวี่ยงขึ้นได้อีกหรือไม่ และภาวะกระทิงเมื่อวันจันทร์จะดำเนินต่อเนื่อง หรือเกิดขึ้นชั่วครู่เพียงวันเดียว เพราะแม้ดัชนีจะพุ่งขึ้นถึง 16 จุด แต่ก็ไม่มีเหตุผลสนับสนุนความร้อนแรงที่ชัดเจนไม่ได้ เพียงแต่แรงซื้อต่างชาติยังหนุนอยู่ ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศกลับเข้ามาซื้อ และกลายเป็นแรงขับเคลื่อนตลาดที่สำคัญเท่านั้น
สำหรับนักลงทุนคงจะกำหนดกลยุทธ์ได้ลำบาก เพราะส่วนหนึ่งกลัวพลาดโอกาสทำกำไรช่วงตลาดขาขึ้น อีกส่วนหนึ่งก็กลัวความสูง ไม่แน่ใจว่าดัชนีจะพุ่งม้วนเดียวไปที่ 1,250 จุด ซึ่งหัวเลี้ยวหัวต่อช่วงนี้คงต้องตัดสินใจกันเอง แต่สำหรับคนที่มีกำไร และกำไรมากๆ หากตลาดปรับตัวขึ้นต่ออาจจะเป็นช่วงเวลาการขายที่ดีก็ได้เพราะแม้รอบนี้ยังวิ่งได้ต่อ แต่ก็มองกันที่ 1,250 จุดเท่านั้นซึ่งใกล้จะถึงอยู่แล้ว ช่องว่างทำกำไรจึงเริ่มแคบลง
แต่สาหรับหุ้นรายตัวอาจมีความเคลื่อนไหวที่แตกต่างจากภาพตลาดรวม โดยอาจจะปรับตัวขึ้นหวือหวาโดดเด่นเป็นการเฉพาะ แต่ก็เลือกไม่ถูกว่ากลุ่มไหนตัวไหนจะโดดเด่น และน่าซื้อดัก เพราะหุ้นรายกลุ่มรายตัวก็มีลักษณะหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันขึ้นจนตามไม่ทันเหมือนกัน
