พรุ่งนี้รู้หมู่รู้จ่า
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นวันนี้ซบเซาลง ดัชนีหลุดระดับ 1,200 จุดอีกครั้ง ซึ่งนอกจากผลกระทบจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ทรุดตัวลงแล้ว ยังมีปัจจัยการเมืองเข้ามาซ้ำเติม เพราะวันพรุ่งนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินกรณีความผิดมาตรา 68 แล้ว ทำให้นรักลงทุนหวั่นไหวในความเสี่ยง และพากันเทขายหุ้นออก
ดัชนีปิดที่ 1,193.13 จุด ลดลง 15.54 จุด มูลค่าซื้อขาย 21,624 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 47 ล้านบาท และไม่มีนัยสำคัญต่อการลงทุนมากนัก
สำหร้บตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปคืนวันพฤหัสบดียังไม่แจ่มใสนัก เพราะปรับฐานลงมาถ้วนหน้า ปัจจัยภายนอกจึงถือเป็นลบ ส่วนปัจจัยภายในวันพรุ่งนี้ก็เป็นสถานการณ์ใหญ่ ซึ่งวิตกกังวลถึงความรุนแรงหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุน เพื่อรอดูเหตุการณ์ โดยเชื่อว่าภาวะตลาดจะเงียบเหงาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเช้า
ศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มอ่านคำวินิจฉัยเวลา 14.00 น. โดยไม่อาจคาดหมายได้ว่าจะอ่านเสร็จสิ้นก่อนปิดตลาดหรือไม่ ซึ่งต้องเฝ้าติดตาม แต่คำตัดสินจะมีผลต่อการชี้นำตลาดหุ้นโดยตรง ทั้งด้านบวกและลบ เมื่อมีปัจจัยความเสี่ยงที่ไม่อาจคาดหมาย หรือประเมินได้ คงต้องรอดูบทสรุปกัน
พรุ่งนี้รู้หมู่รู้จ่าแล้วว่า การเมืองจะเป็นอย่างไร ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในระยะสั้น สำหรับนักลงทุน คงต้องร่วมลุ้นระทึกไปพร้อมกับประชาชนในกลุ่มอื่นๆ เพราะคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญมีผลต่อชะตากรรมการเมืองไทย และตลาดหุ้น
แต่ไม่ว่าตัดสินออกมาอย่างไร ต้องยอมรับ เพราะนี่คือกระบวนการยุติธรรมที่ใช้กับคนทุกกลุ่ม ถ้าไม่ยอมรับก็คงไม่ต้องมีกฏหมายไว้กำราบคนชั่วแล้ว
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นวันนี้ซบเซาลง ดัชนีหลุดระดับ 1,200 จุดอีกครั้ง ซึ่งนอกจากผลกระทบจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ทรุดตัวลงแล้ว ยังมีปัจจัยการเมืองเข้ามาซ้ำเติม เพราะวันพรุ่งนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินกรณีความผิดมาตรา 68 แล้ว ทำให้นรักลงทุนหวั่นไหวในความเสี่ยง และพากันเทขายหุ้นออก
ดัชนีปิดที่ 1,193.13 จุด ลดลง 15.54 จุด มูลค่าซื้อขาย 21,624 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 47 ล้านบาท และไม่มีนัยสำคัญต่อการลงทุนมากนัก
สำหร้บตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปคืนวันพฤหัสบดียังไม่แจ่มใสนัก เพราะปรับฐานลงมาถ้วนหน้า ปัจจัยภายนอกจึงถือเป็นลบ ส่วนปัจจัยภายในวันพรุ่งนี้ก็เป็นสถานการณ์ใหญ่ ซึ่งวิตกกังวลถึงความรุนแรงหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุน เพื่อรอดูเหตุการณ์ โดยเชื่อว่าภาวะตลาดจะเงียบเหงาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเช้า
ศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มอ่านคำวินิจฉัยเวลา 14.00 น. โดยไม่อาจคาดหมายได้ว่าจะอ่านเสร็จสิ้นก่อนปิดตลาดหรือไม่ ซึ่งต้องเฝ้าติดตาม แต่คำตัดสินจะมีผลต่อการชี้นำตลาดหุ้นโดยตรง ทั้งด้านบวกและลบ เมื่อมีปัจจัยความเสี่ยงที่ไม่อาจคาดหมาย หรือประเมินได้ คงต้องรอดูบทสรุปกัน
พรุ่งนี้รู้หมู่รู้จ่าแล้วว่า การเมืองจะเป็นอย่างไร ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในระยะสั้น สำหรับนักลงทุน คงต้องร่วมลุ้นระทึกไปพร้อมกับประชาชนในกลุ่มอื่นๆ เพราะคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญมีผลต่อชะตากรรมการเมืองไทย และตลาดหุ้น
แต่ไม่ว่าตัดสินออกมาอย่างไร ต้องยอมรับ เพราะนี่คือกระบวนการยุติธรรมที่ใช้กับคนทุกกลุ่ม ถ้าไม่ยอมรับก็คงไม่ต้องมีกฏหมายไว้กำราบคนชั่วแล้ว
