ผู้บริหาร “เอื้อวิทยา” มั่นใจเข้าเทรดวันแรก 12 ก.ค.นี้ นักลงทุนให้การต้อนรับคึกคัก เหตุเชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และเติบโตต่อเนื่อง ย้ำจากนี้พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเต็มสูบ ด้านที่ปรึกษาการเงิน และแกนนำอันเดอร์ไรต์ ระบุ จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท และราคาไอพีโอที่ให้ดีสเคานต์ถึง 30% อีกทั้งยอดจองล้น แถมแรงหนุนภาวะซื้อขายในตลาดหุ้นคึก เชื่อเทรดราคายืนเหนือจอง
นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน ) หรือ UWC เปิดเผยถึงการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 99.496 ล้านหุ้น ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)เป็นครั้งแรกในวันที่ 12 กรกฎาคม 2555 ว่า เมื่อ UWC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ไปซื้อเครื่องจักร และอุปกรณ์เพื่อขยายกำลังการผลิต ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อวัตถุดิบเพื่อรองรับคำสั่งซื้อในอนาคต เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
“ผมมั่นใจว่าเมื่อหุ้น UWC เข้าซื้อขายในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากนักลงทุนมองเห็นปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง และแนวโน้มธุรกิจมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ ยังคาดว่าในไตรมาสที่ 3-4/2555 จะมีรายได้จากงานเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง 2 สัญญาที่เพิ่งรับงานเข้ามา ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 2555 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 25%” นายวุฒิชัยกล่าว
ด้านนายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC มั่นใจว่า เมื่อ UWC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาจองได้ เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นช่วงนี้ค่อนข้างสดใส
ขณะที่ผลการจองซื้อหุ้นไอพีโอในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีกระแสความต้องการสูงมาก และการที่ UWC มีจุดแข็งตรงที่มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูง ผนวกกับการตั้งราคาไอพีโอที่ 1.80 บาทต่อหุ้น ให้ส่วนลด (Discount) มากถึง 30% ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้มั่นใจว่าเมื่อ UWC เข้าทำการซื้อขาย จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่นักลงทุน