โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ชี้เหตุขายหุ้นบางกอก เชน ฮอสปิทอล เกลี้ยงพอร์ต ให้กองทุนใน-ต่างประเทศ หลังถือมากว่า 1 ปี เพราะรับส่วนต่างกำไรเบื้องต้น 1,030 ล้านบาท ยันความสัมพันธ์ระหว่างกันยังดี หวังนำเงินที่ได้ขยายโรงพยาบาลและอยู่ระหว่างศึกษาสร้างเองหรือซื้อกิจการโรงพยาบาลอื่น ขณะราคาหุ้นทั้งสองปรับลดลง
วานนี้ ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ KH พบว่าเปิดที่ 9.25 บาทและหลังจากนั้นราคาสวิงทั้งวันก่อนมาปิดที่ 9.05 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ 8.12% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 544.76 ล้านบาท และบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด ( มหาชน ) หรือ BH พบว่าราคาปรับลดลงต่อเนื่องจากช่วงเช้าเปิดที่ 83 บาทก่อนที่ระหว่างวันจะปรับลดลงเรื่อย ๆ มาปิดที่ 79.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 3.05% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 322.37 ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นผลจากวานนี้ (10 ก.ค.) พบว่ามีการซื้อขายหุ้น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ KH บนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) จำนวน 31 รายการ 498.74 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท ราคาเฉลี่ย 9.15 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวม 4,563.55 ล้านบาท โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ได้มีการขึ้นเครื่องหมาย NP หุ้นบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)หรือ BH และ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)หรือ KH ในรอบเช้า เนื่องจากปรากฎข่าว BH ได้มีการขายหุ้น KH ในสัดส่วนเกือบ 25% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ KH
แหล่งข่าวจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)หรือ BH เปิดเผยว่า การที่บริษัทมีการขายหุ้นทั้งหมดของบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล เนื่องจาก มีกองทุนสนใจที่จะเข้ามาซื้อ และบริษัทมองมองว่าราคาที่เสนอซื้อนั้นให้ผลตอบแทนที่ดีกับบริษัทจากที่บริษัทได้มีการถือหุ้นใน บริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล มาเป็นเวลาประมาณ 1 ปีกว่า โดยบริษัทมีต้นทุนในการลงทุนในหุ้นบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล จำนวน 3,532.80 ล้านบาท จากการซื้อหุ้นจำนวน 410 ล้านหุ้น และหลังจากนั้น บริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล จ่ายหุ้นปันผลออกมาทำให้บริษัทถือหุ้นรวมเป็น 498 ล้านหุ้น โดยเงินที่ได้จากการขายหุ้นครั้งนี้มีมูลค่า 4,563.55 ล้านบาท หรือมีส่วนต่างกำไรเบื้องต้น 1030.75 ล้านบาท
สำหรับจะมีการบันทึกเป็นกำไรสุทธิจากการขายหุ้นครั้งนี้เท่าไรนั้นต้องรอทางบัญชีว่าจะมีการบันทึกยังไงหลังจากที่มีการหักภาษีแล้ว โดยเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ บริษัทจะนำไปขยายโรงพยาบาลเพิ่ม จากที่บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาโรงพยาบาลเพิ่มภายใต้แบรนด์บำรุงราษฎร์ หรือ แบรนด์ใหม่ โดยการลงทุนดังกล่าวอาจจะมีการลงทุนเอง หรือเข้าไปซื้อกิจการโรงพยาบาลอื่น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้มีปัญหากับทาง KH เลย โดยยังมีกว่าสัมพันธ์ที่ดี
นายแพทย์ชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ รองประธานกรรมการ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ขายหุ้น บริษัท บางกอกเชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) (KH) จำนวน 498,748,800 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 24.99 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 9.15 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 4,563.55 ล้านบาท โดยขนาดรายการคิดเป็นร้อยละ 31.85 ของสินทรัพย์รวมตามเกณฑ์มูลค่าสิ่งตอบแทนที่ได้รับ ซึ่ง การขายเงินลงทุนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2555 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2555
นายไพบูรณ์ นาโคศิริ กรรมการ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)หรือ KH กล่าวว่าบริษัทได้รับแจ้งจาก โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งเป็นผุ้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ว่า ได้ ขายหุ้นทั้งหมดของ KH ให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงในประเทศและผู้ลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศแบบข้ามคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปจำนวน 498.74 ล้านหุ้น หรือ 24.99% แต่ครอบครัวหาญพาณิชย์ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 เช่นเดิม และ บริษัทยังคงมีนโยบายการบริหารและดำเนินงานตามเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหารระดับสูงของบริษัทแต่อย่างใด
วานนี้ ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ KH พบว่าเปิดที่ 9.25 บาทและหลังจากนั้นราคาสวิงทั้งวันก่อนมาปิดที่ 9.05 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ 8.12% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 544.76 ล้านบาท และบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด ( มหาชน ) หรือ BH พบว่าราคาปรับลดลงต่อเนื่องจากช่วงเช้าเปิดที่ 83 บาทก่อนที่ระหว่างวันจะปรับลดลงเรื่อย ๆ มาปิดที่ 79.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 3.05% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 322.37 ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นผลจากวานนี้ (10 ก.ค.) พบว่ามีการซื้อขายหุ้น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ KH บนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) จำนวน 31 รายการ 498.74 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท ราคาเฉลี่ย 9.15 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวม 4,563.55 ล้านบาท โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ได้มีการขึ้นเครื่องหมาย NP หุ้นบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)หรือ BH และ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)หรือ KH ในรอบเช้า เนื่องจากปรากฎข่าว BH ได้มีการขายหุ้น KH ในสัดส่วนเกือบ 25% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ KH
แหล่งข่าวจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)หรือ BH เปิดเผยว่า การที่บริษัทมีการขายหุ้นทั้งหมดของบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล เนื่องจาก มีกองทุนสนใจที่จะเข้ามาซื้อ และบริษัทมองมองว่าราคาที่เสนอซื้อนั้นให้ผลตอบแทนที่ดีกับบริษัทจากที่บริษัทได้มีการถือหุ้นใน บริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล มาเป็นเวลาประมาณ 1 ปีกว่า โดยบริษัทมีต้นทุนในการลงทุนในหุ้นบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล จำนวน 3,532.80 ล้านบาท จากการซื้อหุ้นจำนวน 410 ล้านหุ้น และหลังจากนั้น บริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล จ่ายหุ้นปันผลออกมาทำให้บริษัทถือหุ้นรวมเป็น 498 ล้านหุ้น โดยเงินที่ได้จากการขายหุ้นครั้งนี้มีมูลค่า 4,563.55 ล้านบาท หรือมีส่วนต่างกำไรเบื้องต้น 1030.75 ล้านบาท
สำหรับจะมีการบันทึกเป็นกำไรสุทธิจากการขายหุ้นครั้งนี้เท่าไรนั้นต้องรอทางบัญชีว่าจะมีการบันทึกยังไงหลังจากที่มีการหักภาษีแล้ว โดยเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ บริษัทจะนำไปขยายโรงพยาบาลเพิ่ม จากที่บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาโรงพยาบาลเพิ่มภายใต้แบรนด์บำรุงราษฎร์ หรือ แบรนด์ใหม่ โดยการลงทุนดังกล่าวอาจจะมีการลงทุนเอง หรือเข้าไปซื้อกิจการโรงพยาบาลอื่น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้มีปัญหากับทาง KH เลย โดยยังมีกว่าสัมพันธ์ที่ดี
นายแพทย์ชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ รองประธานกรรมการ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ขายหุ้น บริษัท บางกอกเชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) (KH) จำนวน 498,748,800 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 24.99 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 9.15 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 4,563.55 ล้านบาท โดยขนาดรายการคิดเป็นร้อยละ 31.85 ของสินทรัพย์รวมตามเกณฑ์มูลค่าสิ่งตอบแทนที่ได้รับ ซึ่ง การขายเงินลงทุนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2555 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2555
นายไพบูรณ์ นาโคศิริ กรรมการ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)หรือ KH กล่าวว่าบริษัทได้รับแจ้งจาก โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งเป็นผุ้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ว่า ได้ ขายหุ้นทั้งหมดของ KH ให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงในประเทศและผู้ลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศแบบข้ามคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปจำนวน 498.74 ล้านหุ้น หรือ 24.99% แต่ครอบครัวหาญพาณิชย์ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 เช่นเดิม และ บริษัทยังคงมีนโยบายการบริหารและดำเนินงานตามเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหารระดับสูงของบริษัทแต่อย่างใด