xs
xsm
sm
md
lg

TK รุกเช่าซื้ออินโดฯ-เวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ฐิติกร” เล็งขยายธุรกิจในตลาดอินโดนีเซีย-เวียดนาม เหตุยอดขายรถจักรยานยนต์เติบโตสูง มั่นใจกำไรสุทธิปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ อานิสงส์ยอดขายจักรยานยนต์เติบโต 2.2 ล้านคัน ดันพอร์ตสินเชื่อสิ้นปี 8.9 พันล้านบาท “ผู้บริหาร” เผยสัปดาห์นี้ เตรียมออกบีอี 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน

นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปทำธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในต่างประเทศ โดยประเทศที่บริษัทสนใจที่จะเข้าไปลงทุน เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม เพราะอินโดนีเซียมีตลาดรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่อันดับ 3 ของแถบนี้ ยอดขายปี 2554 อยู่ 8 ล้านคัน รองจากจีน และอินเดีย ขณะที่ประเทศเวียดนามมียอดขายรถจักรยานยนต์ที่ 3 ล้านคันในปีที่ผ่านมา จึงมองว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่า อาจจะเข้าไปลงทุนในปีนี้ ซึ่งระยะแรกจะเป็นลักษณะการเปิดสำนักงานขนาดเล็กก่อน เพื่อศึกษากฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ในการเข้าไปทำธุรกิจในประเทศนั้น โดยบริษัทได้มีการเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นหลายราย ทั้งสถาบันการเงิน และบริษัทที่ทำธุรกิจใน 2 ประเทศดังกล่าว แต่หากจะเข้าไปลงทุนเต็มที่นั้น บริษัทจะต้องมีการพิจารณาว่าจะเข้าไปลงทุนทำเอง หรือจะหาพันธมิตร หรือเข้าไปซื้อกิจการ

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/55 บริษัทคาดว่า จะมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/54 แต่คงเพิ่มขึ้นไม่ถึง 10% เนื่องจากยอดขายเพิ่มจะฟื้นตัวในช่วงเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน จากผลกระทบน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทคาดว่า ยอดขายรถจักรยานยนต์ในช่วง 6 เดือนแรกนี้จะอยู่ที่ 1 ล้านคัน จากช่วง 5 เดือนยอดขายอยู่ที่ 8.89 แสนคันแล้ว และบริษัทมั่นใจว่า ยอดขายรถจักรยานยนต์สิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 2.2 ล้านคัน

นายประพล กล่าวว่า บริษัทคาดว่า พอร์ตสินเชื่อคงค้างสิ้นปีนี้ของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ 8.3 พันล้านบาท จากไตรมาส 1/55 อยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท ซึ่งประเมินว่า ในไตรมาส 2/55 จะอยู่ที่ประมาณ 7.9 พันล้านบาท และคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/55 พอร์ตสินเชื่อของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าหมาย เพราะเป็นช่วงที่ยอดขายรถจักรยานยนต์สูงสุด (ไฮซีซัน) หลังจากที่เกษตรกรได้เก็บเกี่ยวสินค้าเกษตรเรียบร้อยแล้ว ทำให้มีรายได้การเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มากขึ้น โดยบริษัทคาดว่า ในช่วงไตรมาส 2/55 บริษัทมีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงมาที่ไม่เกิน 4% จากไตรมาส 1/55 อยู่ที่ 4.1% และจะลดลงต่อเนื่องเหลือ 3% ในไตรมาส 3/55 จากบริษัทมีการบริหารจัดการที่ดี

“บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน และมั่นใจว่า กำไรสุทธิจะทำสถิติใหม่สูงสุดอีกครั้ง จากปี 54 ที่มีกำไรสุทธิ 625 ล้านบาท จากยอดขายรถจักรยานยนต์ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.2 ล้านคัน พอร์ตสินเชื่อโตทำสถิติสูงสุดเช่นกัน โดยบริษัทคาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังรายได้ และกำไรจะมีการเติบโตสูงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เพราะตลาดรถจักรยานยนต์เริ่มกลับมามีกำลังการผลิตเป็นปกติตั้งแต่ไตรมาส 2/55 ส่งผลถึงความต้องการสินเชื่อมีมากขึ้น ประกอบกับ ภาคเกษตรมีรายได้สูงขึ้น แต่อาจชะลอลงบ้างในช่วงไตรมาส 3/55 เพราะเป็นช่วงเพาะปลูกของเกษตรกร และในไตรมาส 4/55 จะกลับมาดีที่สุด” นายประพลกล่าว

น.ส.ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ TK กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ บริษัทมีแผนออกตั๋วเงินระยะสั้น (B/E) มูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งมีอายุ 2 เดือน ให้แก่นักลงทุนสถาบัน เพื่อนำเงินมาเพิ่มสภาพคล่องในการทำธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทจะทยอยออกตั๋วเงินระยะสั้นต่อเนื่อง ซึ่้งบริษัทได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นให้สามารถออกได้ในวงเงิน 1.5 พันล้านบาท ส่วนการออกหุ้นกู้นั้น บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณา โดยหากจะมีการออกก็จะเป็นในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะออกประมาณ 500 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น