ผู้บริหาร ซีพี ออลล์ เมิน เอไอเอ ขายหุ้นเกลี้ยงพอร์ต เหตุมีนักลงทุนรายอื่นเข้ามาเสียบแทน ขณะนักลงทุนสถาบันต่างประเทศจำนวนมากสนลงทุน เผยกองทุนลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลกสนแล้ว จากเดิมที่มีแต่ประเทศแถบเอเชีย “ปิยะวัฒน์” แย้ม บอลยูโรดันยอดขายไตรมาส 2/55 โตกว่าปกติ 1-2%
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยว่า จากการที่บริษัท AMERICAN INTERNATIONAL ASSURANCE COMPANY หรือ (AIA) ได้ขายหุ้นของ CPALL 140 ล้านหุ้นนั้น ไม่ได้มีผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัท เพราะหลังการขายดังกล่าวพบว่า ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปเท่ากับระดับราคา 2 วันก่อนหน้าที่ AIA จะขายหุ้นออกมา ซึ่งแสดงว่ามีนักลงทุนรายอื่นเข้าไปรับซื้อแทน และบริษัทไม่มีความกังวลว่าจะมีนักลงทุนรายอื่นมีการขายหุ้นของบริษัทออกมาตาม AIA เพราะธุรกิจของบริษัทมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ก่อนที่ AIA จะขายหุ้นออกมานั้นไม่ได้มีการติดต่อมายังบริษัท และบริษัทไม่ทราบว่ามีการขายหุ้นให้แก่ใคร และไม่ทราบบสาเหตุการขายหุ้นครั้งนี้ แต่ส่วนตัวมองเป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมา ทาง AIA ได้ทยอยขายหุ้นของบริษัทออกมาแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก อาจเป็นการขายทำกำไร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะ AIA ถือหุ้นบริษัทมานานแล้ว ตั้งแต่บริษัทยังไม่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท. ) และแม้การขายหุ้นครั้งนี้ไปแล้ว ทาง AIA ยังเหลือหุ้นที่ถือในบริษัทอยู่ แม้จะมีการขายออกมาหมดเชื่อว่าจะมีนักลงทุนรายอื่นเข้ามารับซื้อแทน
“AIA ถือหุ้นของบริษัทมาตั้งแต่ก่อนเข้าจดทะเบียน หากพิจารณาจากต้นทุนการถือหุ้นในช่วงไอพีโอนั้น ณ พาร์ปัจจุบันที่ 1 บาท AIA จะมีต้นทุนที่ 2.10 บาท ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบแทนจำนวนมาก จากราคาที่ขายไปกว่า 30 บาท ซึ่งบริษัทไม่มีความกังวลกับการขายหุ้นดังกล่าว จากเราเป็นคนทำงาน เรารู้ว่าธุรกิจของบริษัทยังคงเดินหน้าต่อไป และมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง” นายก่อศักดิ์ กล่าว
สำหรับปัจจุบัน มีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศสนใจที่จะเข้ามาลงทุนหุ้นของบริษัทจำนวนมาก เพราะบริษัทได้ไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกมีลักษณะลงทุนระยะยาว สนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท แม้ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในหุ้นของ CPALL เป็นนักลงทุนในแถบเอเชียเท่านั้น เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เนื่องจากมองว่า หุ้นของบริษัทมีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“เราไม่ค่อยห่วงอะไรทั้งสิ้น เพราะบริษัทยังเติบโตไปได้ด้วยดีอยู่ และเอไอไอถือว่าได้ขายออกไปในช่วงที่หุ้น CPALL อยู่ในระดับที่ดี คิดดู เอไอเอถือหุ้นบริษัทมาตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดหุ้น โดยเริ่มเข้ามาลงทุนในรูปแบบกองทุนร่วมลงทุน (ไพรเวต เพลซเมนต์) ซึ่งหากเทียบกับราคาพาร์ 1 บาท ในปัจจุบัน ต้นทุนไอพีโอของเอไอเอจะอยู่ที่ 2.10 บาท ถือว่าได้กำไรจำนวนมากเมื่อเทียบกับราคาขาย” นายก่อศักดิ์กล่าว
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ CPALL กล่าวว่า ยอดขายของบริษัทในไตรมาส 2/55 มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 1-2% จากปกติที่จะมีการเติบโต 5% เนื่องจากเทศกาลบอลยูโร ทำให้ประชาชนมีการซื้อของบริโภคมากขึ้น แต่ในไตรมาส 3/55 นั้น บริษัทมีแผนที่จะมีการจัดทำโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของซื้อสินค้าครบ 40 บาท จะได้รับสิทธิแลกซื้อราคาสินค้าราคาพิเศษ ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก โดยปีนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายจะโต 13-14% จากปี 54 จากยอดขายสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น และยอดขายของสาขา
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยว่า จากการที่บริษัท AMERICAN INTERNATIONAL ASSURANCE COMPANY หรือ (AIA) ได้ขายหุ้นของ CPALL 140 ล้านหุ้นนั้น ไม่ได้มีผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัท เพราะหลังการขายดังกล่าวพบว่า ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปเท่ากับระดับราคา 2 วันก่อนหน้าที่ AIA จะขายหุ้นออกมา ซึ่งแสดงว่ามีนักลงทุนรายอื่นเข้าไปรับซื้อแทน และบริษัทไม่มีความกังวลว่าจะมีนักลงทุนรายอื่นมีการขายหุ้นของบริษัทออกมาตาม AIA เพราะธุรกิจของบริษัทมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ก่อนที่ AIA จะขายหุ้นออกมานั้นไม่ได้มีการติดต่อมายังบริษัท และบริษัทไม่ทราบว่ามีการขายหุ้นให้แก่ใคร และไม่ทราบบสาเหตุการขายหุ้นครั้งนี้ แต่ส่วนตัวมองเป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมา ทาง AIA ได้ทยอยขายหุ้นของบริษัทออกมาแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก อาจเป็นการขายทำกำไร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะ AIA ถือหุ้นบริษัทมานานแล้ว ตั้งแต่บริษัทยังไม่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท. ) และแม้การขายหุ้นครั้งนี้ไปแล้ว ทาง AIA ยังเหลือหุ้นที่ถือในบริษัทอยู่ แม้จะมีการขายออกมาหมดเชื่อว่าจะมีนักลงทุนรายอื่นเข้ามารับซื้อแทน
“AIA ถือหุ้นของบริษัทมาตั้งแต่ก่อนเข้าจดทะเบียน หากพิจารณาจากต้นทุนการถือหุ้นในช่วงไอพีโอนั้น ณ พาร์ปัจจุบันที่ 1 บาท AIA จะมีต้นทุนที่ 2.10 บาท ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบแทนจำนวนมาก จากราคาที่ขายไปกว่า 30 บาท ซึ่งบริษัทไม่มีความกังวลกับการขายหุ้นดังกล่าว จากเราเป็นคนทำงาน เรารู้ว่าธุรกิจของบริษัทยังคงเดินหน้าต่อไป และมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง” นายก่อศักดิ์ กล่าว
สำหรับปัจจุบัน มีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศสนใจที่จะเข้ามาลงทุนหุ้นของบริษัทจำนวนมาก เพราะบริษัทได้ไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกมีลักษณะลงทุนระยะยาว สนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท แม้ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในหุ้นของ CPALL เป็นนักลงทุนในแถบเอเชียเท่านั้น เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เนื่องจากมองว่า หุ้นของบริษัทมีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“เราไม่ค่อยห่วงอะไรทั้งสิ้น เพราะบริษัทยังเติบโตไปได้ด้วยดีอยู่ และเอไอไอถือว่าได้ขายออกไปในช่วงที่หุ้น CPALL อยู่ในระดับที่ดี คิดดู เอไอเอถือหุ้นบริษัทมาตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดหุ้น โดยเริ่มเข้ามาลงทุนในรูปแบบกองทุนร่วมลงทุน (ไพรเวต เพลซเมนต์) ซึ่งหากเทียบกับราคาพาร์ 1 บาท ในปัจจุบัน ต้นทุนไอพีโอของเอไอเอจะอยู่ที่ 2.10 บาท ถือว่าได้กำไรจำนวนมากเมื่อเทียบกับราคาขาย” นายก่อศักดิ์กล่าว
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ CPALL กล่าวว่า ยอดขายของบริษัทในไตรมาส 2/55 มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 1-2% จากปกติที่จะมีการเติบโต 5% เนื่องจากเทศกาลบอลยูโร ทำให้ประชาชนมีการซื้อของบริโภคมากขึ้น แต่ในไตรมาส 3/55 นั้น บริษัทมีแผนที่จะมีการจัดทำโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของซื้อสินค้าครบ 40 บาท จะได้รับสิทธิแลกซื้อราคาสินค้าราคาพิเศษ ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก โดยปีนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายจะโต 13-14% จากปี 54 จากยอดขายสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น และยอดขายของสาขา