กรุงไทยจัดแคมเปญ “KTB NPA Grand Sale” ขน NPA ขายพร้อมโปรโมชันลดลราคาสูงสุด 40% สิทธิพิเศษ 0% นาน 12 เดือน ประเมินครึ่งปีหลัง หากน้ำไม่ท่วมยอดขายอสังหาฯ ฟื้น
นายปริญญา พัฒนภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานปรับโครงสร้างหนี้และบริหารทรัพย์สิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยถึงนโยบายการบริหารการตลาดทรัพย์สินพร้อมขาย (NPA) ว่า ธนาคารได้เน้นการทำงานเพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ผู้ขาย และสบายผู้ซื้อ (Convenience Bank) โดยผ่านการบริการที่สร้างความพึงพอใจสูงสุด นอกจากนี้แล้ว ยังให้ความสำคัญกับการจัดกลุ่มทรัพย์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย และใช้กลยุทธ์การส่งเสริมการขายที่เหมาะสม จูงใจที่สามารถแข่งขันกับตลาดได้ โดยธนาคารมีนโยบายที่ชัดเจนในการกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจซื้อที่อยู่อาศัยจากธนาคาร เช่น การกำหนดราคาขายที่เป็นธรรม เหมาะสมตามสภาวะตลาด และสภาพทรัพย์ โดยไม่ได้มุ่งหวังกำไร เนื่องจากไม่ใช่ธุรกิจของธนาคาร
สำหรับเป้าหมายในการขายทรัพย์ NPA นั้น ธนาคารได้กำหนดยอดขายทั้งปีไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท และได้ตั้งเป้าในช่วง 6 เดือนแรกไว้ที่ 5,000 ล้านบาท และเชื่อว่าภายในปีนี้ จะมียอดขายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากธนาคารได้จัดกิจกรรมเชิงรุกในการเข้าถึงลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดงาน “KTB NPA Grand Sale” ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2555 ณ ที่ทำการสาขาของธนาคารกว่า 1,000 สาขา ทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นมหกรรมลดราคาบ้าน NPA ครั้งยิ่งใหญ่ในรอบปี เนื่องจากได้นำทรัพย์ทั่วประเทศจำนวนกว่า 2,700 รายการ มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาทออกจำหน่าย
ซึ่งผู้ที่ซื้อบ้านผ่านงานดังกล่าว จะได้รับโปรโมชันลดราคาสูงสุดถึง 40% พร้อมทั้งลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ โดยผู้ซื้อชำระเพียง 1% เท่านั้น นอกจากนี้แล้ว ยังได้รับสิทธิพิเศษในการยื่นกู้ในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน สำหรับปีที่ 2-3 ดอกเบี้ย MLR-0.50% และปีต่อไปคิดดอกเบี้ย MLR-1.00%
ส่วนแนวโน้มของตลาดบ้านมือสองใน 6 เดือนสุดท้ายของปี 2555 คาดว่า ตลาดน่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีปัจจัยส่งเสริมหลายอย่าง โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม หากไม่เกิดน้ำท่วมซ้ำอีก ก็จะช่วยลดความกังวลของผู้บริโภคที่ชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย นอกจากนี้แล้ว การที่บ้านมือสองส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมืองซึ่งมีระบบการป้องกันน้ำท่วมที่ดีกว่า น่าจะทำให้บ้านมือสองทำเลในเมืองได้รับความสนใจจากลูกค้า ที่สำคัญ แนวโน้มราคาบ้านใหม่ที่จะแพงขึ้นตามต้นทุนทั้งวัสดุก่อสร้างและแรงงาน คือ ปัจจัยที่จะสนับสนุนให้ผู้บริโภคหันมาสนใจซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ช่วงที่มีการตื่นตัวเรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะมีส่วนทำให้เกิดการขยายตัวภาคอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก (ท่าเรือทวาย) เนื่องจากเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน
“ด้านปัจจัยลบที่กระทบในการขายทรัพย์ NPA นั้น น่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของโลก และของไทยมีการชะลอตัว ส่งผลให้ปริมาณบ้านมือสองเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้ตลาดมีการแข่งขันสูงขึ้น และสถานการณ์ตลาดในช่วงปี 2554-2555 มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดใหม่เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งอาจทำให้กระทบกับภาคอสังหาริมทรัพย์ และส่งผลต่อการทำตลาดบ้านมือสองยากขึ้นด้วย”