ธปท.ออกประกาศให้ธนาคารพาณิชย์นำตั๋วแลกเงิน และตั๋วสัญญาใช้เงินมานับรวมเป็นอัตราส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ธนาคารระดมทุนด้านนี้มาก และตั๋วบี/อีก็คล้ายกับเงินฝาก จึงออกหลักเกณฑ์มาให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น คาดเร็วๆ นี้จะออกหลักเกณฑ์นับรวมเงินกู้ระหว่างธนาคารเข้ามาด้วย
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศเพิ่มประเภทตั๋วแลกเงิน (บี/อี) และตั๋วสัญญาใช้เงินให้นับรวมเป็นการดำรงสินทรัพย์คล่อง เนื่องจากเห็นว่าช่วงที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ออกตั๋ว บี/อี ค่อนข้างมาก ซึ่งตั๋ว บี/อี ทำหน้าที่คล้ายเงินฝาก แต่ไม่ได้นำมาคำนวณเป็นสินทรัพย์สภาพคล่อง จึงออกประกาศนี้ให้มีความคลอบคลุมมากขึ้น และให้สอดคล้องกับพระราชกำหนดปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้ เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2555
“การออกประกาศครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องปัญหาในยุโรป เพื่อรองรับสภาพคล่องให้เพิ่มขึ้น แต่ความจริงมันเป็นการข้ามช็อตกัน คือ ธปท.จะนำตั๋ว บี/อี มานับรวมเป็นสินทรัพย์สภาพคล่องตั้งแต่ก่อนหน้าออก พ.ร.ก. เพราะเห็นว่าช่วงก่อนหน้านี้ ธนาคารพาณิชย์ในระบบออกตั๋ว บี/อีค่อนข้างมาก จึงออกประกาศมาให้ครอบคลุม อย่างไรก็ตาม ธปท.ยืนยันว่าในปัจจุบัน สภาพคล่องในระบบตึงตัวขึ้นเล็กน้อย เพราะธนาคารพาณิชย์มีการปล่อยสินเชื่อค่อนข้างมาก แต่สภาพคล่องโดยรวมยังสูงอยู่ และแม้สภาพคล่องตึงตัวขึ้นบ้างก็ยังไม่น่ากังวลในขณะนี้”
สำหรับประกาศดังกล่าว ได้เพิ่มเติมยอดรวมเงินกู้ยืมจากการออกตั๋วแลกเงิน และตั๋วสัญญาใช้เงินไว้ในฐานคำนวณอัตราส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง ยกเว้น ตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการกู้ยืมระหว่างสถาบันการเงินด้วยกัน ซึ่งปัจจุบัน กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเท่ากับ 6% รวมถึงฐานเงินฝากทุกประเภทยอดรวมเงินกู้ยืมจากต่างประเทศที่ครบกำหนดใน 1 ปี และยอดรวมเงินกู้ที่มีการจ่ายผลอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร หรือมีอนุพันธ์ทางการเงินแฝง และเร็วๆ นี้ ธปท.จะพิจารณาความเหมาะสมหลักเกณฑ์การกำกับดูแลความเสี่ยงด้านสภาพคล่องให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์บาเซิล 3 มากขึ้น ซึ่งอาจทบทวน และนับรวมการกู้ยืมระหว่างสถาบันการเงินเข้ามาด้วย
ส่วนเหตุผลสำคัญที่ ธปท.ยังไม่ได้นับรวมเงินกู้ยืมจากการออกตั๋วแลกเงิน และสัญญาใช้เงินจากสถาบันการเงิน เพราะเห็นว่า ธนาคารพาณิชย์ในประเทศใช้แหล่งเงินกู้ยืมประเภทนี้ไม่มากนักในการดำเนินธุรกิจ ส่วนที่มีการนับรวมตั๋วสัญญาใช้เงินในฐานการคำนวณสินทรัพย์สภาพคล่องด้วยนั้น แม้ปัจจุบัน ธนาคารพาณิชย์ใช้ตั๋วสัญญาใช้เงินในการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ขณะที่ตั๋วแลกเงินระดมเงินจากประชาชน ถือเป็นคนละตลาดกัน แต่เกรงว่าจะมีการพัฒนาการในการนำตั๋วสัญญาใช้เงินมาใช้ระดมทุนจากประชาชน