เอเชีย เอวิเอชั่น เล็งเดินสายโรดโชว์นักลงทุนรายย่อยตามสาขาโบรกเกอร์ทุกแห่งทั้ง กทม.-ตจว. หวังชี้แจงผู้บริหารขายหุ้นบิ๊กล็อต จากก่อนหน้านักลงทุนรายย่อยตกใจแห่ขายหุ้นทำให้ราคาหุ้นต่ำจอง “ทัศพล” แย้ม เร็วๆ นี้มีข่าวดี กรณีย้ายสนามบินให้บริการ คาดมีความชัดเจนปลาย มิ.ย.-ต้นก.ค.นี้ เชื่อส่งดีสะท้อนราคาหุ้น
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของบริษัทที่มีการปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าราคาจอง เนื่องจากนักลงทุนรายย่อย ไม่เข้าใจเกี่ยวกับการที่ผู้ถือหุ้นเดิมมีการขายบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) จำนวน 15% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ในวันแรกที่หุ้นของบริษัทเข้าซื้อขาย ว่า ผู้บริหารทิ้งหุ้นทำให้ตื่นตกใจเทขายหุ้นออกมา แต่จริงๆ แล้วที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมขายบิ๊กล็อตนั้นเพื่อนำเงินไปชำระหนี้กับธนาคารเครดิต สวิส สิงคโปร์ เพื่อนำหุ้นที่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯประกอบกับภาวะตลาดไม่ดี
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าการที่นักลงทุนรายย่อยมีความเข้าใจผิดนั้นเป็นเพราะบริษัทไม่ได้มีการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุนรายย่อย จากช่วงนั้นบริษัทเน้นการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนสถาบันเป็นหลัก โดยตั้งแต่สัปดาห์นี้ บริษัทจะมีการไปนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ให้ครบทุกแห่ง ทั้งในต่างจังหวัด และในกรุงเทพฯ เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า แรงขายของนักลงทุนรายย่อยที่ตื่นตกใจคาดว่าจะขายหมดแล้วจากในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม)ไม่มากแล้ว แต่ข้อมูลการขายบิ๊กล็อตนั้นบริษัทได้เปิดเผยในหนังสือชี้ชวนแล้ว ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงได้อนุมัติการขายหุ้นไอพีโอ
“ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจองนั้น เนื่องจากนักลงทุนตื่นตกใจกรณีที่ผู้บริหารขายหุ้นบิ๊กล็อตหวังทิ้งหุ้น และเพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยเงินที่ขายหุ้นนั้นไม่ได้เข้าบัญชีของผมเลย แต่เข้าบัญชีของธนาคารเครดิต สวิสฯ ประมาณ กว่า 2-3 พันล้านบาท เพื่อเป็นการชำระหนี้ในช่วงที่ผู้บริหารนำเงินไปซื้อหุ้นไทยแอร์เอเซียกับทางบริษัท ชินคอร์ป เพื่อนำหุ้นที่ค้ำประกันกับเครดิต สวิสฯ ออกมาเทรดในตลาด หากไม่ทำหุ้นก็กลับมาเทรดไม่ได้ ซึ่งเป็นการขายครั้งเดียว และไม่มีการขายออกมาอีกแล้ว” นายทัศพลกล่าว
สำหรับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ได้มีการขายหุ้นออกมาเลยแต่มีการซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบัน นักลงทุนสถาบันต่างประเทศถือหุ้นใน AAV กว่า 8% ซึ่งจากการสอบถามนักลงทุนสถาบันต่างประเทศนั้นยังคงมั่นใจในการลงทุนหุ้นของบริษัท และต้องการถือหุ้นบริษัทในระยะยาว 3-5 ปี จากหุ้นของบริษัทเป็นหุ้นที่มีการเติบโตของผลประกอบการ (โกรสสต๊อก) ไม่ได้หวังที่จะได้รับเงินปันผล
นายทัศพล กล่าวว่า ราคาหุ้นไอพีโอ ที่ 3.70 บาท นั้นส่วนตัวมองว่าไม่ได้กำหนดราคาที่สูงเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งในช่วง 1-2 เดือนนี้ บริษัทจะมีข่าวดีเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าจะมีการย้ายสถานที่ให้บริการแก่ลูกค้าจากสุวรรณภูมิ มาที่ดอนเมือง ขณะนี้ได้มีการเจรจากับทาง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด ( มหาชน ) หรือ AOT ไปแล้ว 80-90% แล้ว คาดว่าจะสรุปได้ประมาณปลายเดือน มิ.ย.-ต้น ก.ค.นี้ ซึ่งการย้ายดังกล่าวจะมีข้อดีของการย้ายบริการมาที่ดอนเมืองคือ การขึ้น-ลงของเครื่องบินจะง่ายขึ้น และประหยัดน้ำมัน ซึ่งเมื่อค่าใช้จ่ายน้ำมันลดลงก็จะทำให้บริษัทมีกำไรมากขึ้น เพราะต้นทุนหลักของบริษัทอยู่ที่ราคาน้ำมัน
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของบริษัทที่มีการปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าราคาจอง เนื่องจากนักลงทุนรายย่อย ไม่เข้าใจเกี่ยวกับการที่ผู้ถือหุ้นเดิมมีการขายบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) จำนวน 15% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ในวันแรกที่หุ้นของบริษัทเข้าซื้อขาย ว่า ผู้บริหารทิ้งหุ้นทำให้ตื่นตกใจเทขายหุ้นออกมา แต่จริงๆ แล้วที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมขายบิ๊กล็อตนั้นเพื่อนำเงินไปชำระหนี้กับธนาคารเครดิต สวิส สิงคโปร์ เพื่อนำหุ้นที่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯประกอบกับภาวะตลาดไม่ดี
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าการที่นักลงทุนรายย่อยมีความเข้าใจผิดนั้นเป็นเพราะบริษัทไม่ได้มีการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุนรายย่อย จากช่วงนั้นบริษัทเน้นการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนสถาบันเป็นหลัก โดยตั้งแต่สัปดาห์นี้ บริษัทจะมีการไปนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ให้ครบทุกแห่ง ทั้งในต่างจังหวัด และในกรุงเทพฯ เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า แรงขายของนักลงทุนรายย่อยที่ตื่นตกใจคาดว่าจะขายหมดแล้วจากในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม)ไม่มากแล้ว แต่ข้อมูลการขายบิ๊กล็อตนั้นบริษัทได้เปิดเผยในหนังสือชี้ชวนแล้ว ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงได้อนุมัติการขายหุ้นไอพีโอ
“ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจองนั้น เนื่องจากนักลงทุนตื่นตกใจกรณีที่ผู้บริหารขายหุ้นบิ๊กล็อตหวังทิ้งหุ้น และเพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยเงินที่ขายหุ้นนั้นไม่ได้เข้าบัญชีของผมเลย แต่เข้าบัญชีของธนาคารเครดิต สวิสฯ ประมาณ กว่า 2-3 พันล้านบาท เพื่อเป็นการชำระหนี้ในช่วงที่ผู้บริหารนำเงินไปซื้อหุ้นไทยแอร์เอเซียกับทางบริษัท ชินคอร์ป เพื่อนำหุ้นที่ค้ำประกันกับเครดิต สวิสฯ ออกมาเทรดในตลาด หากไม่ทำหุ้นก็กลับมาเทรดไม่ได้ ซึ่งเป็นการขายครั้งเดียว และไม่มีการขายออกมาอีกแล้ว” นายทัศพลกล่าว
สำหรับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ได้มีการขายหุ้นออกมาเลยแต่มีการซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจุบัน นักลงทุนสถาบันต่างประเทศถือหุ้นใน AAV กว่า 8% ซึ่งจากการสอบถามนักลงทุนสถาบันต่างประเทศนั้นยังคงมั่นใจในการลงทุนหุ้นของบริษัท และต้องการถือหุ้นบริษัทในระยะยาว 3-5 ปี จากหุ้นของบริษัทเป็นหุ้นที่มีการเติบโตของผลประกอบการ (โกรสสต๊อก) ไม่ได้หวังที่จะได้รับเงินปันผล
นายทัศพล กล่าวว่า ราคาหุ้นไอพีโอ ที่ 3.70 บาท นั้นส่วนตัวมองว่าไม่ได้กำหนดราคาที่สูงเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งในช่วง 1-2 เดือนนี้ บริษัทจะมีข่าวดีเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าจะมีการย้ายสถานที่ให้บริการแก่ลูกค้าจากสุวรรณภูมิ มาที่ดอนเมือง ขณะนี้ได้มีการเจรจากับทาง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด ( มหาชน ) หรือ AOT ไปแล้ว 80-90% แล้ว คาดว่าจะสรุปได้ประมาณปลายเดือน มิ.ย.-ต้น ก.ค.นี้ ซึ่งการย้ายดังกล่าวจะมีข้อดีของการย้ายบริการมาที่ดอนเมืองคือ การขึ้น-ลงของเครื่องบินจะง่ายขึ้น และประหยัดน้ำมัน ซึ่งเมื่อค่าใช้จ่ายน้ำมันลดลงก็จะทำให้บริษัทมีกำไรมากขึ้น เพราะต้นทุนหลักของบริษัทอยู่ที่ราคาน้ำมัน
