บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 1,212.5 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2555 นักลงทุนแห่จองซื้อหมดเกลี้ยง ผู้บริหารยืนยันถือหุ้นยาว ตั้งเป้าเป็นสายการบินส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 บล.ธนชาต บล.ซีไอเอ็มบี และเครดิต สวิส ในฐานะแกนนำจัดจำหน่าย ปลื้มนักลงทุนสนใจหุ้น AAV เกินคาด พร้อมแล้วที่จะเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 31 พฤษภาคม ศกนี้
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย ผู้นำในธุรกิจสายการบินราคาประหยัด เปิดเผยถึงผลการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 3.7 บาท จำนวน 1,212.5 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 4,486.25 ล้านบาท โดยผลตอบรับจากการจองซื้อท่วมท้นเกินคาด
“ต้องขอขอบคุณนักลงทุนทั้งสถาบันใน และต่างประเทศ และนักลงทุนรายย่อย ที่ให้ความสนใจในการจองซื้อหุ้นไอพีโอของบริษัทเป็นอย่างมาก และต้องขอบคุณพนักงานของบริษัทที่ทุ่มเทในการทำงานร่วมกัน เพื่อนำพาบริษัทก้าวสู่วาระสำคัญในการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้
โดยผม และคณะผู้บริหารมีคำมั่นสัญญาที่จะดำเนินกิจการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ให้สมกับความไว้ใจ และขอให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่า กลุ่มผู้บริหารไทยจะยังคงเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน AAV ไม่ต่ำกว่า 60% ภายหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ และจะถูกล็อกห้ามขายเป็นเวลา 6 เดือน อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริหารจะยังคงถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51% เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ โดยจะเอาหุ้นทั้ง 51% ไปฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อเป็นเวลาขั้นต่ำ 5 ปีหลังเข้าตลาดฯ นอกจากนี้ หุ้นในส่วนผู้มีอุปการคุณที่บริษัทฯ จัดสรรให้แก่พนักงานในราคาเดียวกันกับไอพีโอ ก็จะถูกห้ามขายเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเป็นแรงจูงใจให้พนักงานร่วมกันสร้างความเติบโตให้แก่บริษัทฯ และสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนอีกด้วย” นายทัศพลกล่าว
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุน ในส่วนของผู้บริหาร จะนำเงินไปชำระหนี้เงินกู้ของผู้บริหารที่ใช้ในการซื้อหุ้นของบริษัทฯ มาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ในส่วนของบริษัทฯ จะนำเงินระดมทุนไปจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนออกใหม่ของ บจ.ไทยแอร์เอเชีย ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน บจ.ไทยแอร์เอเชีย เพิ่มจาก 51% เป็น 55% โดยไทยแอร์เอเชีย จะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการขยายฝูงบินโดยการซื้อเครื่องบินรุ่นแอร์บัส A320 จากที่มีอยู่ 24 ลำในปัจจุบัน เพิ่มอีก 24 ลำ รวมเป็น 48 ลำ ภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มเที่ยวบินให้สามารถรองรับความต้องการของผู้โดยสารที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
นายทัศพล กล่าวต่อว่า เป้าหมายของการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อต้องการยกระดับให้ฐานะทางการเงินของสายการบินไทยแอร์เอเชียให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่สายการบินไทยแอร์เอเชียต้องเตรียมพร้อมรับมือ ดังนั้น ในฐานะผู้บริหารจึงมีความคาดหวังที่จะเห็นสายการบินไทยแอร์เอเชียเป็นสายการบินที่มีส่วนแบ่งผู้โดยสารสูงสุดอันดับ 1 ในประเทศไทย
น.ส.สุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่ายหุ้นของ AAV ว่า ความต้องการซื้อหุ้น AAV ร้อนแรงมาก ผลตอบรับจากการจองซื้อของนักลงทุนรายย่อยเข้ามาอย่างท่วมท้น ทำให้หุ้นที่เสนอขายไม่เพียงพอต่อความต้องการ การจัดสรรหุ้นครั้งนี้จึงมีความท้าทายสูงมาก และเชื่อว่า ความต้องการหุ้นส่วนเกินที่ผู้จัดจำหน่ายไม่สามารถจัดสรรให้ได้ในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การซื้อขายมีสภาพคล่องสูงได้หลังจากหุ้นเข้าตลาด หุ้นไอพีโอของบริษัททั้งหมด 1,212.5 ล้านหุ้น แบ่งสัดส่วนการขายหุ้นให้นักลงทุนสถาบันทั้งใน และต่างประเทศ รวมทั้งส่วนของพนักงานที่ถูกล็อกห้ามขาย 1 ปี รวมประมาณ 70% ของหุ้นไอพีโอทั้งหมดที่เสนอขาย ที่เหลือเป็นสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อย นอกจากนี้ หุ้นเดิมในส่วนของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งเป็นผู้บริหารจำนวน 2,473 ล้านหุ้น คิดเป็น 51% ของหุ้น AAV หลังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะถูกห้ามขายอีก 5 ปี ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญของ AAV กล่าวว่า ขอขอบคุณบริษัทหลักทรัพย์ผู้ร่วมจัดจำหน่ายทุกราย ที่ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง ทำให้การเสนอขายหุ้น AAV ประสบความสำเร็จอย่างสูง และมั่นใจว่า AAV จะเป็นหุ้นเนื้อหอมตัวใหม่ในกลุ่มขนส่งและลอจิสติกส์ พร้อมทั้งเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินราคาประหยัดที่มีอัตราการเติบโตสูง มีการวางแผนเพิ่มเที่ยวบินและเปิดเส้นทางการบินใหม่อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยซึ่งถือว่ามีความโดดเด่นมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น หุ้น AAV จึงเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตของสายการบินไทยแอร์เอเชีย
อนึ่ง บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV เสนอขายหุ้น จำนวน 1,212.5 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.10 บาทต่อหุ้น เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 750 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิม 462.5 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของทุนชำระแล้ว 485 ล้านบาท โดยได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้นไอพีโอไปเมื่อวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2555 มีบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) และ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายนักลงทุนในประเทศ ร่วมกับผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 10 แห่ง และมีธนาคาร ซีไอเอ็มบี และ เครดิต สวิส (สิงคโปร์) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายนักลงทุนในต่างประเทศ
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย ผู้นำในธุรกิจสายการบินราคาประหยัด เปิดเผยถึงผลการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 3.7 บาท จำนวน 1,212.5 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 4,486.25 ล้านบาท โดยผลตอบรับจากการจองซื้อท่วมท้นเกินคาด
“ต้องขอขอบคุณนักลงทุนทั้งสถาบันใน และต่างประเทศ และนักลงทุนรายย่อย ที่ให้ความสนใจในการจองซื้อหุ้นไอพีโอของบริษัทเป็นอย่างมาก และต้องขอบคุณพนักงานของบริษัทที่ทุ่มเทในการทำงานร่วมกัน เพื่อนำพาบริษัทก้าวสู่วาระสำคัญในการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้
โดยผม และคณะผู้บริหารมีคำมั่นสัญญาที่จะดำเนินกิจการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ให้สมกับความไว้ใจ และขอให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่า กลุ่มผู้บริหารไทยจะยังคงเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน AAV ไม่ต่ำกว่า 60% ภายหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ และจะถูกล็อกห้ามขายเป็นเวลา 6 เดือน อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริหารจะยังคงถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51% เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ โดยจะเอาหุ้นทั้ง 51% ไปฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อเป็นเวลาขั้นต่ำ 5 ปีหลังเข้าตลาดฯ นอกจากนี้ หุ้นในส่วนผู้มีอุปการคุณที่บริษัทฯ จัดสรรให้แก่พนักงานในราคาเดียวกันกับไอพีโอ ก็จะถูกห้ามขายเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเป็นแรงจูงใจให้พนักงานร่วมกันสร้างความเติบโตให้แก่บริษัทฯ และสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนอีกด้วย” นายทัศพลกล่าว
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุน ในส่วนของผู้บริหาร จะนำเงินไปชำระหนี้เงินกู้ของผู้บริหารที่ใช้ในการซื้อหุ้นของบริษัทฯ มาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ในส่วนของบริษัทฯ จะนำเงินระดมทุนไปจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนออกใหม่ของ บจ.ไทยแอร์เอเชีย ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน บจ.ไทยแอร์เอเชีย เพิ่มจาก 51% เป็น 55% โดยไทยแอร์เอเชีย จะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการขยายฝูงบินโดยการซื้อเครื่องบินรุ่นแอร์บัส A320 จากที่มีอยู่ 24 ลำในปัจจุบัน เพิ่มอีก 24 ลำ รวมเป็น 48 ลำ ภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มเที่ยวบินให้สามารถรองรับความต้องการของผู้โดยสารที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
นายทัศพล กล่าวต่อว่า เป้าหมายของการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อต้องการยกระดับให้ฐานะทางการเงินของสายการบินไทยแอร์เอเชียให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่สายการบินไทยแอร์เอเชียต้องเตรียมพร้อมรับมือ ดังนั้น ในฐานะผู้บริหารจึงมีความคาดหวังที่จะเห็นสายการบินไทยแอร์เอเชียเป็นสายการบินที่มีส่วนแบ่งผู้โดยสารสูงสุดอันดับ 1 ในประเทศไทย
น.ส.สุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่ายหุ้นของ AAV ว่า ความต้องการซื้อหุ้น AAV ร้อนแรงมาก ผลตอบรับจากการจองซื้อของนักลงทุนรายย่อยเข้ามาอย่างท่วมท้น ทำให้หุ้นที่เสนอขายไม่เพียงพอต่อความต้องการ การจัดสรรหุ้นครั้งนี้จึงมีความท้าทายสูงมาก และเชื่อว่า ความต้องการหุ้นส่วนเกินที่ผู้จัดจำหน่ายไม่สามารถจัดสรรให้ได้ในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การซื้อขายมีสภาพคล่องสูงได้หลังจากหุ้นเข้าตลาด หุ้นไอพีโอของบริษัททั้งหมด 1,212.5 ล้านหุ้น แบ่งสัดส่วนการขายหุ้นให้นักลงทุนสถาบันทั้งใน และต่างประเทศ รวมทั้งส่วนของพนักงานที่ถูกล็อกห้ามขาย 1 ปี รวมประมาณ 70% ของหุ้นไอพีโอทั้งหมดที่เสนอขาย ที่เหลือเป็นสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อย นอกจากนี้ หุ้นเดิมในส่วนของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งเป็นผู้บริหารจำนวน 2,473 ล้านหุ้น คิดเป็น 51% ของหุ้น AAV หลังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะถูกห้ามขายอีก 5 ปี ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญของ AAV กล่าวว่า ขอขอบคุณบริษัทหลักทรัพย์ผู้ร่วมจัดจำหน่ายทุกราย ที่ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง ทำให้การเสนอขายหุ้น AAV ประสบความสำเร็จอย่างสูง และมั่นใจว่า AAV จะเป็นหุ้นเนื้อหอมตัวใหม่ในกลุ่มขนส่งและลอจิสติกส์ พร้อมทั้งเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินราคาประหยัดที่มีอัตราการเติบโตสูง มีการวางแผนเพิ่มเที่ยวบินและเปิดเส้นทางการบินใหม่อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยซึ่งถือว่ามีความโดดเด่นมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น หุ้น AAV จึงเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตของสายการบินไทยแอร์เอเชีย
อนึ่ง บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV เสนอขายหุ้น จำนวน 1,212.5 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.10 บาทต่อหุ้น เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 750 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิม 462.5 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของทุนชำระแล้ว 485 ล้านบาท โดยได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้นไอพีโอไปเมื่อวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2555 มีบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) และ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายนักลงทุนในประเทศ ร่วมกับผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 10 แห่ง และมีธนาคาร ซีไอเอ็มบี และ เครดิต สวิส (สิงคโปร์) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายนักลงทุนในต่างประเทศ