คุมเชิงรอดูทิศทาง
ตลาดหุ้นส่งท้ายสัปดาห์ปิดฉากลงสวย โดยแม้ว่าตลาดหุ้นย่านเอเชียจะปรับฐานกันหมด เนื่องจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการคิวอี 3 ทำให้นักลงทุนทั่วโลกผิดหวัง แต่ตลาดหุ้นไทยกลับดีดตัวขึ้นสวนทางเพื่อนบ้าน เพียงแต่มูลค่าการซื้อขายไม่คึกคักเท่านั้น
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,127.10 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด มูลค่าซื้อขาย 18,631 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเพียง 206 ล้านบาท
การปรับตัวขึ้นของตลาดเกิดจากมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี เนื่องจากราคาปรับตัวลงมาลึกเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น จึงจูงใจให้นักลงทุนหันมาช้อนซื้อเพื่อดักเก็งกำไรหากตลาดฟื้นตัวขึ้น แต่การดีดตัวของดัชนีก็ยังมีเพดานที่จำกัด เนื่องจากไม่มีปัจจัยกระตุ้นที่ชัดเจน ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศก็ไม่ได้กลับมาซื้อหุ้นมากมาย และอาจยังรอประเมินทิศทางการลงทุนอยู่
นอกจากนั้น มูลค่าการซื้อขายที่เบาบางยังสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนชะลอการตัดสินใจ เพราะไม่มั่นใจในแนวโน้ม และลดน้ำหนักการลงทุนโดยไม่กล้าผลีผลามไล่ช้อนซื้อ ส่วนหนึ่งอาจจะกลัวความผันผวน หรือต้องการรอดูสัญญาณการชี้นำที่ชัดเจน
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้าก็ยังไม่อาจคาดการณ์ได้ เพราะไม่มีปัจจัยชี้นำ โดยตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับฐานกันเล็กน้อย ส่วนดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นมา 93 จุด แต่ราคาน้ำมันลดฮวบลงเหลือ 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลกระทบจิตวิทยาต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีที่เพิ่งเริ่มจะโงหัวขึ้น และหากหุ้นกลุ่มพลังงานพักฐานดัชนีก็อาจพักตาม
เมื่อยังไม่มีสัญญาณชี้นำตลาด นักลงทุนคงต้องเฝ้ารอคอยต่อไป และทำให้ภาพรวมของตลาดไม่คึกคักมากนัก ขณะที่ดัชนีจะเคลื่อนไหวในช่วงแคบ ส่วนการจะหันไปเล่นหุ้นรายตัว ก็ต้องระมัดระวัง เพราะรายใหญ่กำลังปั่นหุ้นเล็กล่อแมลงเม่าอยู่
ตลาดหุ้นส่งท้ายสัปดาห์ปิดฉากลงสวย โดยแม้ว่าตลาดหุ้นย่านเอเชียจะปรับฐานกันหมด เนื่องจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการคิวอี 3 ทำให้นักลงทุนทั่วโลกผิดหวัง แต่ตลาดหุ้นไทยกลับดีดตัวขึ้นสวนทางเพื่อนบ้าน เพียงแต่มูลค่าการซื้อขายไม่คึกคักเท่านั้น
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,127.10 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด มูลค่าซื้อขาย 18,631 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเพียง 206 ล้านบาท
การปรับตัวขึ้นของตลาดเกิดจากมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี เนื่องจากราคาปรับตัวลงมาลึกเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น จึงจูงใจให้นักลงทุนหันมาช้อนซื้อเพื่อดักเก็งกำไรหากตลาดฟื้นตัวขึ้น แต่การดีดตัวของดัชนีก็ยังมีเพดานที่จำกัด เนื่องจากไม่มีปัจจัยกระตุ้นที่ชัดเจน ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศก็ไม่ได้กลับมาซื้อหุ้นมากมาย และอาจยังรอประเมินทิศทางการลงทุนอยู่
นอกจากนั้น มูลค่าการซื้อขายที่เบาบางยังสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนชะลอการตัดสินใจ เพราะไม่มั่นใจในแนวโน้ม และลดน้ำหนักการลงทุนโดยไม่กล้าผลีผลามไล่ช้อนซื้อ ส่วนหนึ่งอาจจะกลัวความผันผวน หรือต้องการรอดูสัญญาณการชี้นำที่ชัดเจน
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้าก็ยังไม่อาจคาดการณ์ได้ เพราะไม่มีปัจจัยชี้นำ โดยตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับฐานกันเล็กน้อย ส่วนดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นมา 93 จุด แต่ราคาน้ำมันลดฮวบลงเหลือ 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลกระทบจิตวิทยาต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีที่เพิ่งเริ่มจะโงหัวขึ้น และหากหุ้นกลุ่มพลังงานพักฐานดัชนีก็อาจพักตาม
เมื่อยังไม่มีสัญญาณชี้นำตลาด นักลงทุนคงต้องเฝ้ารอคอยต่อไป และทำให้ภาพรวมของตลาดไม่คึกคักมากนัก ขณะที่ดัชนีจะเคลื่อนไหวในช่วงแคบ ส่วนการจะหันไปเล่นหุ้นรายตัว ก็ต้องระมัดระวัง เพราะรายใหญ่กำลังปั่นหุ้นเล็กล่อแมลงเม่าอยู่