ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงาน SET Note ไตรมาส 1/2555 พบ บจ. 71% มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ฟื้นตัวจากเหตุการณ์อุทกภัยได้อย่างรวดเร็ว ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มในระดับต่ำ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้า
สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงาน SET Note Quarterly Corporate Update พบว่า ในไตรมาส 1/2555 บริษัทจดทะเบียนมีสัญญาณฟื้นตัวจากเหตุการณ์อุทกภัยได้อย่างรวดเร็ว สังเกตจากรายได้ธุรกิจหลักและกำไรสุทธิที่เพิ่มสูงขึ้นมากจากไตรมาสก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการดำเนินงานในไตรมาส 1/2555 ยังไม่กลับมาอยู่ในภาวะปกติ สะท้อนจากผลประกอบการที่ลดลงจากไตรมาส 1/2554 แม้จะได้รับประโยชน์จากภาระทางภาษีที่ลดลง โดยในไตรมาส 1/2555 บริษัทจดทะเบียนมีรายได้จากการขายและบริการรวมเพิ่มขึ้น 12.69% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 2,343,785 ล้านบาท แต่ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในระดับที่ต่ำกว่า ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 194,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.67% และมีกำไรสุทธิ 201,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 193.26% จากไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงาน 8.28% และอัตรากำไรสุทธิ 8.10%
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2555 มีบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 391 บริษัท คิดเป็น 74.33% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 63.12% ในไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีผลประกอบการดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีบริษัทที่มีกำไรเพิ่มขึ้น 374 บริษัท คิดเป็น 71.10% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เมื่อพิจารณารายกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่าทุกกลุ่มมีกำไรสุทธิและส่วนใหญ่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มที่มีมูลค่ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสูงคือกลุ่มทรัพยากรและกลุ่มธุรกิจการเงิน ขณะที่มีเพียงกลุ่มบริษัทที่เข้าข่ายฟื้นฟูกิจการที่มีกำไรสุทธิลดลง
สำหรับดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/2555 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าทุกรายการ ซึ่งเป็นผลจากกำไรสุทธิที่ปรับสูงขึ้น โดยบริษัทจดทะเบียนมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity: ROE) อยู่ที่ 5.16% เพิ่มขึ้นจาก 1.82% ในไตรมาสก่อนหน้า รวมถึงภาระหนี้สินมีแนวโน้มสูงขึ้นสะท้อนจากระดับหนี้สินต่อทุนซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 1.38 เท่า
อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องการชำระหนี้ของบริษัทจดทะเบียนปรับเพิ่มขึ้นในระดับที่สูง ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนยังอยู่ในเกณฑ์มั่นคงในด้านมูลค่าการลงทุน บริษัทจดทะเบียนมีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรในไตรมาส 1/2555 มูลค่า 115,308 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2554 ที่มีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรมูลค่า 88,408 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.43%
ด้านการระดมทุนจากตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/2555 มีมูลค่ารวม 34,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4 เท่า (หรือ 423.02%) จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีบริษัทจดทะเบียนระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์จำนวน 67 บริษัท คิดเป็น 12.74% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากในไตรมาส 4/2554 ที่ 10.64% ทั้งนี้ มีการระดมทุนในตลาดแรกมูลค่า 21,181 ล้านบาท ขณะที่การระดมทุนในตลาดรองมีมูลค่ารวม รวมทั้งสิ้น 13,750 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี แม้บริษัทจดทะเบียนมีรายได้จากธุรกิจหลักฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายทางภาษีลดลงจากการปรับลดลงของอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่กำไรสุทธิรวมกลับลดลง 2.18% จากไตรมาส 1/2554 และมีดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงานอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2554
สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงาน SET Note Quarterly Corporate Update พบว่า ในไตรมาส 1/2555 บริษัทจดทะเบียนมีสัญญาณฟื้นตัวจากเหตุการณ์อุทกภัยได้อย่างรวดเร็ว สังเกตจากรายได้ธุรกิจหลักและกำไรสุทธิที่เพิ่มสูงขึ้นมากจากไตรมาสก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการดำเนินงานในไตรมาส 1/2555 ยังไม่กลับมาอยู่ในภาวะปกติ สะท้อนจากผลประกอบการที่ลดลงจากไตรมาส 1/2554 แม้จะได้รับประโยชน์จากภาระทางภาษีที่ลดลง โดยในไตรมาส 1/2555 บริษัทจดทะเบียนมีรายได้จากการขายและบริการรวมเพิ่มขึ้น 12.69% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 2,343,785 ล้านบาท แต่ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในระดับที่ต่ำกว่า ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 194,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.67% และมีกำไรสุทธิ 201,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 193.26% จากไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นอัตรากำไรจากการดำเนินงาน 8.28% และอัตรากำไรสุทธิ 8.10%
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2555 มีบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 391 บริษัท คิดเป็น 74.33% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 63.12% ในไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีผลประกอบการดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีบริษัทที่มีกำไรเพิ่มขึ้น 374 บริษัท คิดเป็น 71.10% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เมื่อพิจารณารายกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่าทุกกลุ่มมีกำไรสุทธิและส่วนใหญ่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มที่มีมูลค่ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสูงคือกลุ่มทรัพยากรและกลุ่มธุรกิจการเงิน ขณะที่มีเพียงกลุ่มบริษัทที่เข้าข่ายฟื้นฟูกิจการที่มีกำไรสุทธิลดลง
สำหรับดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/2555 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าทุกรายการ ซึ่งเป็นผลจากกำไรสุทธิที่ปรับสูงขึ้น โดยบริษัทจดทะเบียนมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity: ROE) อยู่ที่ 5.16% เพิ่มขึ้นจาก 1.82% ในไตรมาสก่อนหน้า รวมถึงภาระหนี้สินมีแนวโน้มสูงขึ้นสะท้อนจากระดับหนี้สินต่อทุนซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 1.38 เท่า
อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องการชำระหนี้ของบริษัทจดทะเบียนปรับเพิ่มขึ้นในระดับที่สูง ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนยังอยู่ในเกณฑ์มั่นคงในด้านมูลค่าการลงทุน บริษัทจดทะเบียนมีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรในไตรมาส 1/2555 มูลค่า 115,308 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2554 ที่มีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรมูลค่า 88,408 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.43%
ด้านการระดมทุนจากตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/2555 มีมูลค่ารวม 34,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4 เท่า (หรือ 423.02%) จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีบริษัทจดทะเบียนระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์จำนวน 67 บริษัท คิดเป็น 12.74% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากในไตรมาส 4/2554 ที่ 10.64% ทั้งนี้ มีการระดมทุนในตลาดแรกมูลค่า 21,181 ล้านบาท ขณะที่การระดมทุนในตลาดรองมีมูลค่ารวม รวมทั้งสิ้น 13,750 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี แม้บริษัทจดทะเบียนมีรายได้จากธุรกิจหลักฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายทางภาษีลดลงจากการปรับลดลงของอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่กำไรสุทธิรวมกลับลดลง 2.18% จากไตรมาส 1/2554 และมีดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงานอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2554