“จรัมพร” ยอมรับ วิกฤตในยุโรปกดดันตลาดหุ้นไทย มองดัชนีลงเข้าใกล้ 1,100 จุด แนะต้องติดตามใกล้ชิด “กิตติรัตน์” มั่นใจเปิดเทรด “ดอลลาร์ฟิวเจอร์ส” ช่วยแก้ปัญหาตลาดหุ้น-ค่าบาทป่วน ผู้ส่งออกมีทางรอดเพิ่มขึ้น
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงเข้าใกล้ 1,100 จุดในขณะนี้ มองว่าเกิดจากความกดดันของวิกฤตปัญหาหนี้ยุโรป ซึ่งมีผลต่อการไหลเข้า-ออกของเงินทุน ในขณะที่มองว่าภาพรวมในตลาดหุ้นไทยยังเป็นบวก เมื่อเทียบกับดัชนีเมื่อปลายปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,023 จุด แต่ในขณะนี้ดัชนีอยู่ที่ 1,100 จุด ซึ่งตลาดหุ้นไทยถือเป็น 1 ใน 3 ของหุ้นภูมิภาคที่ตลาดยังเป็นบวก ในขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคปรับตัวลงไป 12-13%
สำหรับปัจจัยการเมืองในประเทศ ถือเป็นปัจจัยรองที่มีผลต่อตลาดหุ้น ซึ่งหากไม่มีความขัดแย้งรุนแรงก็ไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก และเชื่อว่าทุกคนหวังให้บ้านเมืองสงบสุข
ผู้จัดการ ตลท. แนะนำให้นักลงทุนเข้าลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี และเป็นบริษัทที่มีกำไร ซึ่งในดัชนี SET 100 มีบริษัทประมาณ 70-75% ที่ยังทำกำไรได้ติดต่อกัน 3 ปีต่อเนื่อง แม้จะเกิดวิกฤตต่างๆ จึงน่าจะรองรับวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และยังแนะนำให้นักลงทุนติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหายุโรปอย่างใกล้ชิด
นายจรัมพร กล่าวว่า ส่วนการเปิดการซื้อขายดอลลาร์ล่วงหน้า (USD Futures) ที่เริ่มขึ้นในวันนี้ น่าจะเป็นเครื่องมือทางการเงินในการช่วยลดความเสี่ยง และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งขณะนี้ค่าเงินดอลลาร์ และยูโรผันผวนค่อนข้างมาก และเครื่องมือดังกล่าวน่าจะเป็นผลดีต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเปิดการซื้อขายดอลลาร์ล่วงหน้า ถือเป็นความร่วมมือของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่เปิดให้มีการเปิดซื้อขายดอลลาร์ล่วงหน้า ซึ่งทำให้ผู้ที่รอรับ หรือจ่ายเงินสกุลดอลลาร์สามารถบริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น และถือเป็นก้าวแรกที่เปิดให้มีการซื้อขายเงินสกุลดอลลาร์ และในอนาคตอันใกล้จะให้มีการซื้อขายเงินสกุลอื่นล่วงหน้า รวมถึงอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า ขณะนี้พบว่า ประเทศในเอเชียเริ่มมีการซื้อขายเงินสกุลอื่นมากขึ้น โดยเริ่มซื้อขายที่เงินสกุลหยวน
