ใกล้แตะจุดต่ำสุดใหม่
ตลาดหุ้นส่งท้ายสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ปรับตัวลงโครมใหญ่ เนื่องจากปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งภายนอกและภายใน ทำให้นักลงทุนกลุ่มใหญ่พากันทิ้งหุ้นจนดัชนีวูบลงแรง และทำท่าว่าจะไปแตะจุดต่ำสุดเดิม หรืออาจถอยลงหนักกว่าเก่า
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,115.19 จุด ลดลง 26.31 จุด มูลค่าซื้อขาย 22,994 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติกลับมาขาย 793 ล้านบาท
การปรับตัวลงรุนแรงอาจเป็นผลจากตลาดเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งหุ้นควรจะปรับฐานลง เพราะปัจจัยภายนอกเลวร้าย แต่มีการลากหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวขึ้นไป โดยเฉพาะหุ้น ปตท. ซึ่งปรับตัวขึ้นสวนทางราคาน้ำมันตลาดโลก และไม่รู้ว่ามีใครพยายามบิดเบือนภาพที่แท้จริงของตลาด ทำให้ดัชนีดีดตัวขึ้น 2 จุด ทั้งที่ควรจะติดลบ
ถ้าพิจารณาภาวะตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีแล้ว จะทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่า ตลาดหุ้นวันศุกร์อาจต้องปรับตัวลง พราะการดีดตัวในวันพฤหัสบดีเป็นของปลอม ซึ่งเกิดจากการลากหุ้นขนาดใหญ่ขึ้นมาค้ำยันดัชนี นอกจากนั้น สถานการณ์รอบด้านยังเลวร้าย จึงเป็นตัวเร่งให้ดัชนีทรุดตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก และสัปดาห์ก็มีแนวโน้มที่จะปรับฐานต่อ
เพราะตลาดหุ้นทั้งสหรัฐฯ และยุโรปทรุดตัวกันหนัก 1-3% ราคาน้ำมันร่วงผล็อยเหลือเพียง 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานโดยตรง นอกจากนั้น ความเคลื่อนไหวทางการเมือง การต่อต้านการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อลบล้างความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังปลุกให้ประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้าน และอาจจุดชนวนให้เกิดการเผชิญหน้าในหมู่พี่น้องคนไทย เพียงเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณบรรลุเป้าหมาย และสมุนรับใช้ได้เสพสุขในผลประโยชน์และอำนาจ แต่พี่น้องเพื่อนร่วมชาติต้องเข่นฆ่ากันเพราะการยุยงของคนอัปรีย์จัญไรที่ใจคออำมหิต
ต้นสัปดาห์หน้าข่าวร้ายมากมายรออยู่ และการปรับตัวแรงเมื่อวันศุกร์ยังทำให้นักลงทุนเสียขวัญ มองโลกในแง่ร้าย และไม่กล้าผลีผลามซื้อหุ้น หรือชะลอการลงทุนลง เพราะการปรับฐานรอบใหม่มองกันไว้แล้วว่า แนวรับที่ 1,100 จุด อาจเอาไม่อยู่ โดยอาจจะรอซื้อเมื่อหลุดแนวรับไปแล้ว
สำหรับคนที่อยากจะช้อนซื้อหุ้นก็ควรรอ เพราะสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ทำไห้มีโอกาสซื้อของถูกลง ถ้าไม่ใจร้อนรีบซื้อของแพงจนหมดเงินเสียก่อน
ตลาดหุ้นส่งท้ายสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ปรับตัวลงโครมใหญ่ เนื่องจากปัจจัยลบรอบด้าน ทั้งภายนอกและภายใน ทำให้นักลงทุนกลุ่มใหญ่พากันทิ้งหุ้นจนดัชนีวูบลงแรง และทำท่าว่าจะไปแตะจุดต่ำสุดเดิม หรืออาจถอยลงหนักกว่าเก่า
ดัชนีวันศุกร์ปิดที่ 1,115.19 จุด ลดลง 26.31 จุด มูลค่าซื้อขาย 22,994 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติกลับมาขาย 793 ล้านบาท
การปรับตัวลงรุนแรงอาจเป็นผลจากตลาดเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งหุ้นควรจะปรับฐานลง เพราะปัจจัยภายนอกเลวร้าย แต่มีการลากหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวขึ้นไป โดยเฉพาะหุ้น ปตท. ซึ่งปรับตัวขึ้นสวนทางราคาน้ำมันตลาดโลก และไม่รู้ว่ามีใครพยายามบิดเบือนภาพที่แท้จริงของตลาด ทำให้ดัชนีดีดตัวขึ้น 2 จุด ทั้งที่ควรจะติดลบ
ถ้าพิจารณาภาวะตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีแล้ว จะทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่า ตลาดหุ้นวันศุกร์อาจต้องปรับตัวลง พราะการดีดตัวในวันพฤหัสบดีเป็นของปลอม ซึ่งเกิดจากการลากหุ้นขนาดใหญ่ขึ้นมาค้ำยันดัชนี นอกจากนั้น สถานการณ์รอบด้านยังเลวร้าย จึงเป็นตัวเร่งให้ดัชนีทรุดตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก และสัปดาห์ก็มีแนวโน้มที่จะปรับฐานต่อ
เพราะตลาดหุ้นทั้งสหรัฐฯ และยุโรปทรุดตัวกันหนัก 1-3% ราคาน้ำมันร่วงผล็อยเหลือเพียง 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานโดยตรง นอกจากนั้น ความเคลื่อนไหวทางการเมือง การต่อต้านการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อลบล้างความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังปลุกให้ประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้าน และอาจจุดชนวนให้เกิดการเผชิญหน้าในหมู่พี่น้องคนไทย เพียงเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณบรรลุเป้าหมาย และสมุนรับใช้ได้เสพสุขในผลประโยชน์และอำนาจ แต่พี่น้องเพื่อนร่วมชาติต้องเข่นฆ่ากันเพราะการยุยงของคนอัปรีย์จัญไรที่ใจคออำมหิต
ต้นสัปดาห์หน้าข่าวร้ายมากมายรออยู่ และการปรับตัวแรงเมื่อวันศุกร์ยังทำให้นักลงทุนเสียขวัญ มองโลกในแง่ร้าย และไม่กล้าผลีผลามซื้อหุ้น หรือชะลอการลงทุนลง เพราะการปรับฐานรอบใหม่มองกันไว้แล้วว่า แนวรับที่ 1,100 จุด อาจเอาไม่อยู่ โดยอาจจะรอซื้อเมื่อหลุดแนวรับไปแล้ว
สำหรับคนที่อยากจะช้อนซื้อหุ้นก็ควรรอ เพราะสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ทำไห้มีโอกาสซื้อของถูกลง ถ้าไม่ใจร้อนรีบซื้อของแพงจนหมดเงินเสียก่อน