ไปต่อต้องมีข่าวดีหนุน
ตลาดหุ้นดีดตัวต่อเนื่อง 4 วันติดแล้ว โดยดัชนีปรับตัวขึ้นมารวมประมาณ 52 จุด จนทะลุผ่านขึ้นมายืนเหนือ 1,150 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ แต่ฟื้นมาถึงจุดนี้แล้ว โอกาสจะขยับต่อแรงๆ คงเป็นไปได้น้อย นอกจากจะมีข่าวดีชิ้นใหม่เข้ามาสนับสนุนแล้ว เนื่องจากราคาหุ้นเริ่มจูงใจให้ขายทำกำไรมากขึ้น
ดัชนีวันนี้ปิดที่ระดับ 1,153.66 จุด เพิ่มขึ้น 13.73 จุด มูลค่าซื้อขาย 24,845 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อ 645 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยภายนอกก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวในด้านลบ โดยดาวโจนส์ล่วงหน้าล่าสุดบวกกว่า 70 จุด ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในช่วงแคบๆ แต่ปัจจัยที่จะต้องต้ดตามคือ สถานการณ์การเมืองภายในประเทศ ซึ่งวันพรุ่งนี้จะร้อนจัด เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และภาคประชาชนกลุ่มต่างๆ จะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านจการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อล้วงมลทินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอาจนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรงได้
และสถานการณ์การเมืองภายในประเทศอาจทำให้นักลงทุนชะลอการตัดสินใจ เพื่อรอดูเหตุการณ์ ซึ่งตลาดอาจจะเข้าสู่การพักฐานพอดี ตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้จึงอาจไม่คึกคักมากนัก นอกจากนั้น เพดานการปรับตัวขึ้นจากนี้ก็เริ่มแคบลง เพราะฟื้นตัวท้วนเดียวกว่า 50 จุด ซึ่งเป็นผลจากความคาดหวังว่าวิกฤตการณ์ในประเทศกรีซจะคลายตัวลงเท่านั้น
หุ้นกลุ่ม ปตท. หลังจากทรุดหนักต่อเนื่อง เมื่อวานฟื้นกันเป็นแถว และเป็นตัวขับเคลื่อนดัชนีให้ดีดตัวร้อนแรง แต่หุ้นกลุ่มที่หวือหวาขึ้นมาคือ หุ้นขนาดเล็ก ซึ่งมีการจุดพลุไล่ราคาเพื่อกระตุ้นให้รายย่อยตามแห่เข้าไปเก็งกำไร และหากใครหลวมตัวเข้าไปอาจเจ็บหนักได้ จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงเพราะอาจตกเป็นเหยื่อรายใหญ่ที่กำลังปลุกหุ้นตัวเล็กกันอยู่
บรรยากาศตลาดหุ้นกลับสู่ภาวะที่สดใสขึ้นแล้ว แต่การวิ่งมากว่า 50 จุด ต้องถือเป็นการดีดตัวกลับมาเร็วมาก และถ้าจะกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,200 จุดใหม่คงจะเร็วมากเกินไป ดังนั้น วันพรุ่งนี้หุ้นคงลดความร้อนแรงลง และยังมีความเปราะบางกับข่าวร้ายอยู่ โดยหากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบก็อาจปักหัวลงมาอีกได้ ใครที่บาดเจ็บน้อย ขาดทุนน้อยแผลเริ่มหายแล้ว อาจจะปรับพอร์ตระบายหุ้นออกบ้างเพื่อถือเงินสด รอคอยจังหวะช้อนเก็บหากเกิดการปรับฐานแรงอีกครั้ง
ตลาดหุ้นดีดตัวต่อเนื่อง 4 วันติดแล้ว โดยดัชนีปรับตัวขึ้นมารวมประมาณ 52 จุด จนทะลุผ่านขึ้นมายืนเหนือ 1,150 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ แต่ฟื้นมาถึงจุดนี้แล้ว โอกาสจะขยับต่อแรงๆ คงเป็นไปได้น้อย นอกจากจะมีข่าวดีชิ้นใหม่เข้ามาสนับสนุนแล้ว เนื่องจากราคาหุ้นเริ่มจูงใจให้ขายทำกำไรมากขึ้น
ดัชนีวันนี้ปิดที่ระดับ 1,153.66 จุด เพิ่มขึ้น 13.73 จุด มูลค่าซื้อขาย 24,845 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อ 645 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยภายนอกก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวในด้านลบ โดยดาวโจนส์ล่วงหน้าล่าสุดบวกกว่า 70 จุด ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในช่วงแคบๆ แต่ปัจจัยที่จะต้องต้ดตามคือ สถานการณ์การเมืองภายในประเทศ ซึ่งวันพรุ่งนี้จะร้อนจัด เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และภาคประชาชนกลุ่มต่างๆ จะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านจการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อล้วงมลทินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอาจนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรงได้
และสถานการณ์การเมืองภายในประเทศอาจทำให้นักลงทุนชะลอการตัดสินใจ เพื่อรอดูเหตุการณ์ ซึ่งตลาดอาจจะเข้าสู่การพักฐานพอดี ตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้จึงอาจไม่คึกคักมากนัก นอกจากนั้น เพดานการปรับตัวขึ้นจากนี้ก็เริ่มแคบลง เพราะฟื้นตัวท้วนเดียวกว่า 50 จุด ซึ่งเป็นผลจากความคาดหวังว่าวิกฤตการณ์ในประเทศกรีซจะคลายตัวลงเท่านั้น
หุ้นกลุ่ม ปตท. หลังจากทรุดหนักต่อเนื่อง เมื่อวานฟื้นกันเป็นแถว และเป็นตัวขับเคลื่อนดัชนีให้ดีดตัวร้อนแรง แต่หุ้นกลุ่มที่หวือหวาขึ้นมาคือ หุ้นขนาดเล็ก ซึ่งมีการจุดพลุไล่ราคาเพื่อกระตุ้นให้รายย่อยตามแห่เข้าไปเก็งกำไร และหากใครหลวมตัวเข้าไปอาจเจ็บหนักได้ จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงเพราะอาจตกเป็นเหยื่อรายใหญ่ที่กำลังปลุกหุ้นตัวเล็กกันอยู่
บรรยากาศตลาดหุ้นกลับสู่ภาวะที่สดใสขึ้นแล้ว แต่การวิ่งมากว่า 50 จุด ต้องถือเป็นการดีดตัวกลับมาเร็วมาก และถ้าจะกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,200 จุดใหม่คงจะเร็วมากเกินไป ดังนั้น วันพรุ่งนี้หุ้นคงลดความร้อนแรงลง และยังมีความเปราะบางกับข่าวร้ายอยู่ โดยหากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบก็อาจปักหัวลงมาอีกได้ ใครที่บาดเจ็บน้อย ขาดทุนน้อยแผลเริ่มหายแล้ว อาจจะปรับพอร์ตระบายหุ้นออกบ้างเพื่อถือเงินสด รอคอยจังหวะช้อนเก็บหากเกิดการปรับฐานแรงอีกครั้ง