กสิกรฯ ชี้วิกฤตหนี้ยุโรปไม่กระทบเอสเอ็มอีส่งออกมากนัก มีอยู่ในพอร์ตเพียง 10% แต่ต้องจับตาผลกระทบทางอ้อมทั้ง ศก.รวม อัตราแลกเปลี่ยน ระบุหลังเปิด AEC ต่างชาติฮุบแบงก์ไทยทำได้ยาก เหตุมีความแข็งแกร่งสูง
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยถึงผลกระทบจากวิฤกตหนี้ในยุโรปต่อผู้ประกอบขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ว่า วิกฤตดังกล่าว อาจไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับลูกค้าผู้ส่งออกกลุ่มเอสเอ็มอี เนื่องจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าวที่ส่งสินค้าออกไปยังยุโรปมีสัดส่วนเพียง 10% ของสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารเท่านั้น แต่ส่วนที่ต้องติดตามเป็นผลทางอ้อมที่กระทบด้านเศรษฐกิจ การเงิน และอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นปัญหาเชื่อมโยงต่อระบบเศรษฐกิจโลก และอาจกระทบต่อธุรกิจในภาพกว้าง
อย่างไรก็ตาม ธนาคารมั่นใจว่าในช่วงสิ้นปี 2555 นี้ การเติบโตของสินเชื่อเอสเอ็มอีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 10-12% หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อรวม 4.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2554 ที่ยอดคงค้างสินเชื่อเอสเอ็มอีที่ 4.3 แสนล้านบาท โดยคาดว่าในกลางปีนี้ สินเชื่อดังกล่าวจะเติบโตได้ที่ 5% ตามเป้าหมายครึ่งปีที่วางไว้
“ประเด็นสำคัญในการพิจารณาลูกค้าเอสเอ็มอีไม่น่าจะมีปัญหามากนัก แต่อาจจะมีความยากในเรื่องการเลือกดูแลลูกค้าบางกลุ่ม ซึ่งในปีนี้ ธนาคารไม่ได้ใช้กลยุทธ์เรื่องการรีไฟแนนซ์มากนัก เนื่องจากตลาดมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน”
ส่วนความกังวลเกี่ยวกับการเปิดเขตเศรษฐกิจเสรีประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ถึงการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะการซื้อหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินของไทยนั้น มองว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงิน แต่ในทางกลับกัน หากมองในเชิงธุรกิจจะเห็นว่า สถาบันการเงินของไทยมีความเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้าภายในประเทศมากกว่านักลงทุนต่างชาติ ดังนั้น หากต้องการเข้ามาถือหุ้นเพื่อต้องการบริหารจัดการระบบการเงินของธนาคาร และเปลี่ยนแปลงระบบภายในให้เชื่อมโยงระหว่างระบบเดิมและระบบของนายทุนคงเป็นไปได้ยาก
จับมือ SME Thailand เฟ้นสุดยอดเอสเอ็มอีรุ่นใหม่
ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยจับมือนิตยสาร SME Thailand เปิดตัวโครงการประกวด SME Thailand Inno Awards 2012 เพื่อเฟ้นหาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ มีความคิดสร้างสรรค์ และประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ สมควรเป็นแบบอย่างให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ จำนวน 10 รางวัล โดยมีคณะกรรมการผู้มากประสบการณ์จากหลายหน่วยงานร่วมคัดสรร 10 ผู้ประกอบการยอดเยี่ยมที่โดดเด่นในสาขาต่างๆ
สำหรับเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการ SME Thailand Inno Awards 2012 จะต้องเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นผู้ประกอบการที่ก่อตั้งกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี สินค้า หรือบริการต้องมีความแตกต่าง และความโดดเด่นน่าสนใจ และเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับการยอมรับ และประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจ ซึ่งผู้ชนะการประกวดโครงการ SME Thailand Inno Awards 2012 ทั้ง 10 รางวัล จะได้รับสิทธิพิเศษการเข้าอบรมในโครงการ K SME Care และนิตยสาร K SME Inspired จากธนาคารกสิกรไทย เป็นเวลา 1 ปี และการประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการผ่านสื่อต่างๆ ในเครือนิตยสาร SME Thailand ด้วย
โดยในการประกวดครั้งนี้ จะเปิดให้ผู้ประกอบการส่ง Company Profile ของตนเอง ความยาวไม่เกิน 2 หน้า A4 ผ่านทาง smethailand.innoawards@gmail.com ทั้งนี้ โครงการ SME Thailand Inno Awards 2012 จะเปิดรับสมัครผลงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-15 สิงหาคม2555 ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัคร และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.smethailandclub.com