ศูนย์พยากรณ์ฯ ม.หอการค้าไทยคาดจะมีเงินสะพัดช่วงฟุตบอลยูโร 2012 จำนวนกว่า 64,00 ล้านบาท โดยเป็นเม็ดเงินจากการพนันบอลสูงถึง 41,000 ล้านบาท หรือประมาณ 8,138.8 บาทต่อคนต่อนัด เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มากนัก แนะจับตาปัญหาหนี้สิน และอาชญากรรม
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่าย และผลกระทบด้านธุรกิจและสังคมไทยในช่วงฟุตบอลยูโร 2012 ว่า จะมีการจับจ่ายใช้สอยในช่วงฟุตบอลยูโรปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 หรือมีเงินสะพัดประมาณ 64,928.3 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกับช่วงฟุตบอลโลก 2010 ภาพรวมการใช้จ่ายอยู่ที่ 59,672.7 ล้านบาท และหากเปรียบเทียบกับช่วงฟุตบอลยูโรในปี 2008 คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.5 ที่มีเงินสะพัด 54,908.9 ล้านบาท
“แม้ยอดการใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น แต่ยังมองว่าในปีนี้การจับจ่ายยังไม่คึกคักมากนัก และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวจากภาวะค่าครองชีพสูง แต่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังมองว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 5.9 และเศรษฐกิจในช่วง 4 ปีหลังจากนี้โดยเฉลี่ยน่าจะขยายตัวอยู่ในกรอบร้อยละ 5-6 โดยปัจจัยที่ต้องจับตามองยังคงเป็นการเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะการเสนอร่างพระราชบัญญัติสร้างความปรองดอง เพราะหลายฝ่ายไม่อยากให้ปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้นอีก”
ทั้งนี้ หากแยกค่าใช้จ่าย ส่วนใหญ่จะใช้จ่ายด้านการพนันฟุตบอลกว่า 41,710.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 63.6 เมื่อเทียบกับช่วงฟุตบอลโลก 2010 โดยเฉลี่ยจะใช้จ่ายในการเล่นพนัน ประมาณ 8,138.8 บาทต่อคนต่อนัด ขณะที่ผลสำรวจทางสังคมและเศรษฐกิจ ในช่วงฟุตบอลยูโร 2012 จะก่อให้เกิดการพนันผิดกฎหมายมากขึ้นร้อยละ 75.7 และก่อให้เกิดหนี้สินมากขึ้นร้อยละ 72.6 รวมทั้งเกิดปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 69.4
