ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่นฯ เผยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 191,264,422 ล้านหุ้น ให้ผู้ถือหุ้นเดิมจองใช้สิทธิของตนคึกคัก พร้อมแจ้งความจำนงขอซื้อเพิ่มเป็นจำนวนมาก ทำให้ความต้องการหุ้นสูงกว่าเท่าตัวของจำนวนที่กำหนดไว้ ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นที่มีต่อบริษัท
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF ผู้นำ และเชี่ยวชาญด้านอาหารทะเลด้วยนวัตกรรม และคุณภาพที่มีแบรนด์ชั้นนำระดับโลก กล่าวถึงผลสำเร็จของการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 191,264,422 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ทั้งนี้ ได้มีการเปิดให้ใช้สิทธิจองหุ้นชุดนี้เมื่อช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. 55 ที่ผ่านมาว่า ได้รับควาสนใจสูงมาก โดยมีผู้ถือหุ้นขอใช้สิทธิเต็มตามสัดส่วนที่บริษัทกำหนดไว้คือ 5 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 50 บาทต่อหุ้น และขณะเดียวกัน ผู้ถือหุ้นก็แสดงความจำนงขอจองซื้อเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ความต้องการหุ้นเพิ่มทุนสูงกว่าเท่าตัว ของจำนวนหุ้นที่บริษัทเสนอขาย
สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีความพร้อมสำหรับการลงทุนเพิ่ม รวมถึงช่วยเรื่องการชำระหนี้ให้รวดเร็วขึ้น ลดภาระดอกเบี้ยให้แก่บริษัท ช่วยเสริมสภาพคล่องสำหรับการขยายธุรกิจต่อไป การมีความพร้อมทางด้านการเงินที่แข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันของบริษัท และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเพิ่มทุนนี้จะทำให้บริษัทมีเงินทุนเพิ่มประมาณ 9,600 ล้านบาท สำหรับนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ดังกล่าว
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF ผู้นำ และเชี่ยวชาญด้านอาหารทะเลด้วยนวัตกรรม และคุณภาพที่มีแบรนด์ชั้นนำระดับโลก กล่าวถึงผลสำเร็จของการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 191,264,422 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ทั้งนี้ ได้มีการเปิดให้ใช้สิทธิจองหุ้นชุดนี้เมื่อช่วงวันที่ 14-18 พ.ค. 55 ที่ผ่านมาว่า ได้รับควาสนใจสูงมาก โดยมีผู้ถือหุ้นขอใช้สิทธิเต็มตามสัดส่วนที่บริษัทกำหนดไว้คือ 5 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 50 บาทต่อหุ้น และขณะเดียวกัน ผู้ถือหุ้นก็แสดงความจำนงขอจองซื้อเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ความต้องการหุ้นเพิ่มทุนสูงกว่าเท่าตัว ของจำนวนหุ้นที่บริษัทเสนอขาย
สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีความพร้อมสำหรับการลงทุนเพิ่ม รวมถึงช่วยเรื่องการชำระหนี้ให้รวดเร็วขึ้น ลดภาระดอกเบี้ยให้แก่บริษัท ช่วยเสริมสภาพคล่องสำหรับการขยายธุรกิจต่อไป การมีความพร้อมทางด้านการเงินที่แข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันของบริษัท และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเพิ่มทุนนี้จะทำให้บริษัทมีเงินทุนเพิ่มประมาณ 9,600 ล้านบาท สำหรับนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ดังกล่าว