ASTVผู้จัดการรายวัน - โบรกฯ มองหุ้นพลังงานกลับมาพีกช่วงปลายไตรมาส 3 จากดีมานด์ช่วงไฮซีซัน และสถานการณ์ปัญหาในยุโรปคลี่คลายดันราคาคอมมอดิตีปรับตัว รวมทั้งความต้องการของจีนจะเพิ่มขึ้น ชี้ AEC เป็นโอกาสให้บริษัทพลังงานไทยขยายตลาด ส่วนทองคำอยู่ในช่วงขาลงยาว จนกว่ากรีซจะมีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาหนี้ และในเรื่องนโยบายของรัฐบาลใหม่ ให้แนวรับสำคัญ 1,515-1,500 เหรียญ/ออนซ์
นายธนัทเทพ จันทรกานต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางการเข้าลงทุนในในหุ้นกลุ่มพลังงานว่า ตอนนี้ราคาพลังงานปรับตัวลงตามวัฏจักร เพราะไม่ใช่ช่วงไฮซีซันของอุตสาหกรรม อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะวิกฤตปัญหาหนี้ในกลุ่มยูโรโซน โดยเฉพาะเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของกรีซ
ทั้งนี้ ประเมินว่า หุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะกลับมาปรับตัวดีขึ้นทั้งในด้านรายได้-ราคาขายอีกครั้งในช่วงปลายไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ หลังปัจจัยลบต่างๆ คลี่คลาย และเป็นช่วงไฮซีซัน ซึ่งมีความต้องการบริโภคพลังงานในระดับสูง ดังนั้น ในช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงที่น่าเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวอีกครั้ง
“วิกฤตหนี้สาธารณะ และความไม่ชัดเจนต่อการจัดตั้งรัฐบาลของกรีซ ส่วนตัวประเมินว่าจะไม่เลวร้าย หรือรุนแรงเท่าตอนเลห์แมน บราเธอรส์ ซึ่งทุกอย่างน่าจะมีข้อตกลงที่ยอมรับกันได้ในทุกฝ่าย และจะมีผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น ซึ่งรวมถึงราคาน้ำมันด้วย”
ส่วนประชาคมอาเซียน (AEC) นั้นมองว่า เมื่อเปิดเชื่อมโยงระหว่างกันเต็มที่ ตรงนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานมากกว่า เพราะจะเป็นโอกาสให้บริษัทพลังงานของไทย โดยเฉพาะเครือ ปตท. ออกไปทำตลาดในต่างประเทศตามนโยบายที่ตั้งเป้าหมายไว้ นั่นคือการมุ่งแสวงหาแหล่งพลังงาน และการขยายตลาด
ทองคำ อยู่ในแนวโน้มขาลง
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำในช่วงขาลง ว่า จากปัญหาความไม่แน่นอนต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของกรีซ อันเนื่องมาจากต้องมีการเลือกตั้งใหม่เพื่อจัดตั้งรัฐบาลนั้น ทำให้สินทรัพย์ลงทุนที่มีความเสี่ยงปรับตัวลดลง รวมถึงทองคำ ซึ่งทางบริษัทประเมินว่าหากกรีซไม่ถึงขั้นต้องออกจากลุ่มยูโรโซน ราคาทองคำไม่น่าจะปรับตัวลงได้แรงอีกมากนัก โดยให้แนวรับที่ 1,515 เหรียญ/ออนซ์ และแนวรับต่อไปอยู่ที่ 1,500 เหรียญ/ออนซ์
“หากเราโฟกัสปัญหาที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก และราคาทองคำขณะนี้ ทั้งหมดจะอยู่ที่กรีซ ซึ่งถ้ามีปัญหาเพิ่มขึ้นก็จะไปกระทบต่อเศรษฐกิจของยูโรโซน และลุกลามต่อเศรษฐกิจโลกได้ แต่ภาพรวมแนวโน้มระยะยาวโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นยังมี ซึ่งอยู่ในระดับเดิมคือ 1,700-1,900 เหรียญ”
นายธนัทเทพ จันทรกานต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางการเข้าลงทุนในในหุ้นกลุ่มพลังงานว่า ตอนนี้ราคาพลังงานปรับตัวลงตามวัฏจักร เพราะไม่ใช่ช่วงไฮซีซันของอุตสาหกรรม อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะวิกฤตปัญหาหนี้ในกลุ่มยูโรโซน โดยเฉพาะเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของกรีซ
ทั้งนี้ ประเมินว่า หุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะกลับมาปรับตัวดีขึ้นทั้งในด้านรายได้-ราคาขายอีกครั้งในช่วงปลายไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ หลังปัจจัยลบต่างๆ คลี่คลาย และเป็นช่วงไฮซีซัน ซึ่งมีความต้องการบริโภคพลังงานในระดับสูง ดังนั้น ในช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงที่น่าเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวอีกครั้ง
“วิกฤตหนี้สาธารณะ และความไม่ชัดเจนต่อการจัดตั้งรัฐบาลของกรีซ ส่วนตัวประเมินว่าจะไม่เลวร้าย หรือรุนแรงเท่าตอนเลห์แมน บราเธอรส์ ซึ่งทุกอย่างน่าจะมีข้อตกลงที่ยอมรับกันได้ในทุกฝ่าย และจะมีผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น ซึ่งรวมถึงราคาน้ำมันด้วย”
ส่วนประชาคมอาเซียน (AEC) นั้นมองว่า เมื่อเปิดเชื่อมโยงระหว่างกันเต็มที่ ตรงนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานมากกว่า เพราะจะเป็นโอกาสให้บริษัทพลังงานของไทย โดยเฉพาะเครือ ปตท. ออกไปทำตลาดในต่างประเทศตามนโยบายที่ตั้งเป้าหมายไว้ นั่นคือการมุ่งแสวงหาแหล่งพลังงาน และการขยายตลาด
ทองคำ อยู่ในแนวโน้มขาลง
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำในช่วงขาลง ว่า จากปัญหาความไม่แน่นอนต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของกรีซ อันเนื่องมาจากต้องมีการเลือกตั้งใหม่เพื่อจัดตั้งรัฐบาลนั้น ทำให้สินทรัพย์ลงทุนที่มีความเสี่ยงปรับตัวลดลง รวมถึงทองคำ ซึ่งทางบริษัทประเมินว่าหากกรีซไม่ถึงขั้นต้องออกจากลุ่มยูโรโซน ราคาทองคำไม่น่าจะปรับตัวลงได้แรงอีกมากนัก โดยให้แนวรับที่ 1,515 เหรียญ/ออนซ์ และแนวรับต่อไปอยู่ที่ 1,500 เหรียญ/ออนซ์
“หากเราโฟกัสปัญหาที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก และราคาทองคำขณะนี้ ทั้งหมดจะอยู่ที่กรีซ ซึ่งถ้ามีปัญหาเพิ่มขึ้นก็จะไปกระทบต่อเศรษฐกิจของยูโรโซน และลุกลามต่อเศรษฐกิจโลกได้ แต่ภาพรวมแนวโน้มระยะยาวโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นยังมี ซึ่งอยู่ในระดับเดิมคือ 1,700-1,900 เหรียญ”