xs
xsm
sm
md
lg

SRICHA ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 78.25 ล. Q2 นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ศรีราชาคอนสตรัคชั่น เสนอขายหุ้น IPO 78.25 ล้านหุ้น พร้อมออกวอร์แรนต์แจกกรรมการ และพนักงานบริษัท 6.7 ล้านหน่วย คาดเข้าซื้อขายหุ้นไตรมาส 2/55 ด้าน “ผู้บริหาร” แจง เหตุเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังสร้างความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้า หวังรับงานมูลค่าขนาดใหญ่ 4-5 พันล้านบาท พร้อมคาดรายได้ปีนี้อาจต่ำกว่าปีก่อน ขณะอัตรากำไรสุทธิยังอยู่ระดับสูง

นายบุญเครือ เขมาภิรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SRICHA ซึ่งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโลหะในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (Mechanical) เช่น โรงกลั่นน้ำมัน โรงไฟฟ้า โรงานปิโตรเคมี โรงงานเหมืองแร่ต่างประเทศและในประเทศ เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อที่จะสร้างความน่าเชื่อแก่ลูกค้า จากที่บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปรับงานที่มีมูลค่าขนาดใหญ่อุตสาหกรรมพลังงานในต่างประเทศที่มีมูลค่า 4-5 พันล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะทราบผลไตรมาส 3 หรือ 4 ปีนี้

สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ 78.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาทและจะเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิหรือวอร์แรนต์ให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท 6.7 ล้านหน่วย ราคาหน่วยละ 0 บาท อายุ 3 ปี อัตราส่วน 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นเดิม และการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเพิ่มจาก 225 ล้านบาท เป็น 310 ล้านบาท

โดยเงินที่ได้จาการระดมทุน จะนำไปขยายโรงงาน เพราะบริษัทมีโครงการขยายธุรกิจเพื่อรองรับโครงการขนาดใหญ่ในอนาคต และมีแผนที่จะพัฒนาสถานที่สำหรับประกอบงานโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ งานประกอบท่อ งานประกอบถังบรรจุ โดยบริษัทคาดว่าโรงงานก่อสร้างจะมี
กำลังการผลิตรวม 1.8-2 หมื่นตันต่อปี ซึ่งปัจจุบัน อยู่ระหว่างเจรจากซื้อที่ดินขนาด 200 ไร่ และเป็นที่ดินติดท่าเรือ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 800 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมากจากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ และจากกระแสเงินสดของบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้อาจจะต่ำกว่าปี 54 ที่มีรายได้รวม 2,981 ล้านบาท หากบริษัทไม่ได้รับงานใหม่ แต่ปัจจุบัน บริษัทมีการเจรจากับลูกค้าหลายรายที่จะเข้าไปรับงาน โดยบริษัทมีงานในมืออยู่ 1,300 ล้านบาท ซึ่งจะทอยอยรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 2/55 ถึงสิ้นปีนี้ แต่หากรายได้ปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อน แต่ในด้านอัตรากำไรสุทธินั้นถือว่ายังอยู่ในระดับสูง เพราะงานที่บริษัทเข้าไปรับนั้นมีอัตรากำไรสุทธิสูง โดยปี 54 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,267 ล้านบาท ซึ่งช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 43% และปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือ 600-700 ล้านบาท มีอัตราผลกตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) 101.8% โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะเป็นหุ้นปันผล

“สัดส่วนรายได้ของบริษัท 80-90% เป็นการรับงานต่างประเทศ และอีก 10-20% เป็นงานในประเทศ โดยที่ผ่านมา บริษัทได้มีการก่อสร้างโรงงานถลุงแร่ที่ประเทศมาดากัสการ์ มูลค่างาน 7.5 พันล้านบาท โรงกลั่นน้ำมันเอกซอนโมบิล ที่สิงคโปร์ โรงงานน้ำมันไทยออยล์ โรงกลั่นน้ำมันประเทศกาตาร์ ซึ่งบริษัทมีจุดเด่นที่ทีมงานที่มีประสบการณ์ทำงานกว่า 20 ปี มีความสามารถรับงานที่ใช้ความเชี่ยวชาญสูง ส่งมอบได้ตรงเวลา จนได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างระดับโลก” นายบุญเครือกล่าว

น.ส.บุษราภรณ์ จันทร์ชูเชิด ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ประมาณไตรมาส 2/55 นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น