xs
xsm
sm
md
lg

ดีมานด์ถ่านหินพุ่งดันผลงาน EARTH พุ่ง 321%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ไตรมาสแรกปีนี้กำไรสุทธิอยู่ที่ 262.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 320.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 62.42 ล้านบาท ส่วนรายได้พุ่งแตะ 1,879.79 ล้านบาท เหตุดีมานด์ใช้ถ่านหินในตลาดโลกขยายตัว ดันราคาขายพุ่ง “ขจรพงศ์” เผยถ่านหินยังติดชาร์ตพลังงานทดแทนต้นทุนต่ำที่ยังมีความต้องการต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศจีน และอินเดีย อีกทั้งเหมืองถ่านหินของบริษัทที่อินโดนีเซียเริ่มรับรู้รายได้แล้ว และพร้อมเพิ่มกำลังการผลิตเต็มกำลังตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป เชื่อหนุนปีนี้เติบโตได้ตามเป้าที่ 3.2 ล้านตันต่อปีได้

นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด(มหาชน) หรือ EARTH เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาส 1/2555 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 55 สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 262.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 320.75 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2554 ที่มีกำไรสุทธิ 62.42 ล้านบาท

โดยสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวอย่างโดดเด่นเป็นเพราะมีรายได้จากการขายมากถึง 1,874.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2554 ที่ทำได้ 879.91 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 113.63% เนื่องจากจากปริมาณความต้องการถ่านหินของตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะถ่านหินเป็นพลังงานทดแทนน้ำมันเตา และแก๊ส LPG และ NGV ซึ่งราคามีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต ขณะเดียวกัน ดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นจากการนำเข้าถ่านหินเพื่อทดแทนกำลังการผลิตจากประเทศจีนที่ซื้อขายสินค้ากับบริษัทมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และผลักดันให้กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/55 ของ EARTH ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 391.62 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 126.89 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 208.60%

“ผลประกอบการไตรมาส 1/55 ของ EARTH ออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ซึ่งถือเป็นผลการดำเนินงานที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา และยิ่งบริษัทก้าวสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายถ่านหินอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำขึ้น จึงผลักดันให้ธุรกิจของ EARTH เติบโตขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยคาดว่าปริมาณการจำหน่ายถ่านหินปีนี้น่าจะอยู่ที่ 3.2 ล้านตันต่อปี คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 70% จากปี 54 ปริมาณการจำหน่ายถ่านหินอยู่ที่ 1.9 ล้านตัน” นายขจรพงศ์กล่าว

จากแนวโน้มของธุรกิจพลังงานถ่านหินที่ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการในหลายอุตสาหกรรมต้องการที่จะลดต้นทุนทางการผลิตลง ขณะที่ถ่านหินถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นพลังงานทดแทน และมีราคาที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้น้ำมัน EARTH จึงได้ศึกษาการซื้อเหมืองถ่านหินใหม่ๆ เพิ่ม เพื่อรองรับความต้องการใช้ถ่านหินที่มีเข้ามา
กำลังโหลดความคิดเห็น