มูราโมโต้ อีเล็คตรอนฯ ไตรมาส 2 ปีนี้ขาดทุนเกือบ 36 ล้านบาท ผลจากยอดขายสินค้าลดลง เนื่องจากยังเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วม ทำให้ธุรกิจที่อยู่ใน Supply Chain ติดอยู่ในสภาพที่ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ และระบบการผลิตยังอยู่ระหว่างฟื้นฟู รวมทั้งการถดถอยของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรป และสหรัฐอเมริกา อีกทั้งผลกระทบจากค่าเงิน
นายเซอิจิ โอซากิ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มูราโมโต้ อีเล็คตรอน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ METCO แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ สิ้นสุด 31 มีนาคม 55 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 35.48 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 115.10 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 35.48 ล้านบาท หรือลดลง 130.82% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน
โดยงวดนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายสินค้าในไตรมาสที่ 2 นี้ 2,924.33 ล้านบาท ลดลง 1,506.53 ล้านบาท หรือลดลง 34% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยังเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วม ทำให้ธุรกิจที่อยู่ใน Supply Chain ติดอยู่ในสภาพที่ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ การจัดป้อนชิ้นส่วนยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟู รวมทั้งการถดถอยของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรป และสหรัฐอเมริกา
ขณะที่บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 2 นี้จำนวน 87.28 ล้านบาท ลดลง 153.57 ล้านบาท หรือลดลง 63.76% ส่วนค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 2 นี้เพิ่มขึ้น 35.22 ล้านบาท จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากบริษัทได้ดำเนินมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายมาอย่างต่อเนื่อง แต่ค่าใช้จ่ายคงที่ยังเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายผันแปร
นอกจากนี้ ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในไตรมาสที่ 2 นี้ 2.30 ล้านบาท ในขณะที่ระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้วมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 19.25 ล้านบาท
นายเซอิจิ โอซากิ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มูราโมโต้ อีเล็คตรอน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ METCO แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ สิ้นสุด 31 มีนาคม 55 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 35.48 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 115.10 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 35.48 ล้านบาท หรือลดลง 130.82% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน
โดยงวดนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายสินค้าในไตรมาสที่ 2 นี้ 2,924.33 ล้านบาท ลดลง 1,506.53 ล้านบาท หรือลดลง 34% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยังเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วม ทำให้ธุรกิจที่อยู่ใน Supply Chain ติดอยู่ในสภาพที่ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ การจัดป้อนชิ้นส่วนยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟู รวมทั้งการถดถอยของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรป และสหรัฐอเมริกา
ขณะที่บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 2 นี้จำนวน 87.28 ล้านบาท ลดลง 153.57 ล้านบาท หรือลดลง 63.76% ส่วนค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 2 นี้เพิ่มขึ้น 35.22 ล้านบาท จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากบริษัทได้ดำเนินมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายมาอย่างต่อเนื่อง แต่ค่าใช้จ่ายคงที่ยังเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายผันแปร
นอกจากนี้ ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในไตรมาสที่ 2 นี้ 2.30 ล้านบาท ในขณะที่ระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้วมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 19.25 ล้านบาท