“อินโดรามา เวนเจอร์” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้และไตรมาส 2 เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 20% จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และการเทกโอเวอร์กิจการ ยืนยันแม้ตลาด PTA ในเอเชียจะโอเวอร์ซัปพลาย แต่จะไม่มีผลกับบริษัท เช่นเดียวกับวิกฤตหนี้ในยูโรโซน
นายดีลิป กุมาร์ อากาวาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ PET บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) (IVL) เปิดเผยว่า ในปีนี้รายได้ของ IVL จะเพิ่มมึ้นอีก 20% จากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ในระดับ 6.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากปริมาณการผลิตทีเพิ่มขึ้นเป็น 5.5 ล้านตัน จากปี 2554 ซึ่งมีอยู่ 4.4 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 25% โดยเป็นการเพิ่มมาจากกำลังการผลิตในจีน 5 แสนตัน และในเนธอร์แลนด์ 2 แสนตัน รวมทั้งโรงงานที่ จ.ลพบุรี ซึ่งเริ่มดำเนินการอีกครั้งหลังประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปลายปีก่อน ทำให้เชื่อว่าไตรมาส 1 ที่ผ่านมาจะเป็นระดับต่ำสุดของบริษัทสำหรับในปีนี้
ขณะเดียวกัน ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นอีก 20% ในไตรมาส 2 โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.4 ล้านตัน จาก 1.2 ล้านตันในไตรมาสแรก และมีการใช้อัตรากำลังการผลิตเพิ่มเป็น 88% จาก 85% หลังจากที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการ MEG ในสหรัฐฯ
สำหรับ สเปรด PTA ณ ปัจจุบันได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 135 เหรียญ/ตัน จากไตรมาส 1/55 ที่อยู่ 128 เหรียญ/ตัน ซึ่งปัจจุบันมีราคาขายอยู่ที่ 1,150 เหรียญ/ตัน เนื่องจากผู้ผลิตในเกาหลีใต้และจีนประสบผลขาดทุน จึงหยุดการผลิต
ทั้งนี้ บริษัทระบุว่า แม้ไตรมาสแรก PTA ในอาเซียนของบริษัทไม่ดีนัก แต่ตลาดหลักของ IVLอยู่ที่สหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งยังมีสเปรดที่ดี และมีการเติบโตต่อเนื่อง
ดังนั้นจึ งมองว่าแม้ในตลาดเอเชียจะเผชิญปัญหาโอเวอร์ซัปพลายต่อไปอีกประมาณ 2 ปี ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เช่นเดียวกับวิกฤตในยูโรโซน เนื่องจากประเทศที่เกิดปัญหาอย่างกรีซ โปรตุเกส สเปน อยู่ในยุโรปล่าง ขณะที่สินค้าส่วนมากของบริษัทมีตลาดใหญ่อยู่ที่ยุโรปเหนือ