xs
xsm
sm
md
lg

เคทีซี Q1 ขาดทุน 155 ล้านตั้งสำรองฯ เพิ่ม-คาด Q2 ฟื้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เคทีซีรับผลขาดทุนไตรมาสแรก 155 ล้าน เหตุตั้งสำรองหนี้เพิ่มจากผลกระทบน้ำท่วม คาดไตรมาส 2 พลิกฟื้นกำไร

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) เปิดเผยว่า ฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2555 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 45,743 ล้านบาท ลดลงจาก 47,443 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 โดยพอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 41,418 ล้านบาท ลดลงจาก 43,135 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ฐานสมาชิกรวม 2.2 ล้านบัญชี ประกอบด้วย บัตรเครดิต 1,610,849 บัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 29,774 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล “เคทีซี แคช” เท่ากับ 585,845 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคล 11,332 ล้านบาท เป็นต้น

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทยังคงมีภาระค่าใช้จ่ายตั้งสำรองหนี้เสียจากผลกระทบของภาวะน้ำท่วมต่อเนื่องในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหน้า โดยในไตรมาสแรกของปี 2555 หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลงเหลือเพียง 1,298 ล้านบาท จากเดิมในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 มีจำนวน 2,288 ล้านบาท อีกทั้งค่าใช้จ่ายทางการเงิน และค่าใช้จ่ายในการบริหารงานเพิ่มขึ้น 6% เท่ากับ 28 ล้านบาท และ 3% เท่ากับ 37 ล้านบาท ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จึงส่งผลให้บริษัทขาดทุนสุทธิในไตรมาสแรก 155 ล้านบาท

แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 1% อยู่ที่ 3,102 ล้านบาท โดยที่รายได้ดอกเบี้ยรับ (รวมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน) รายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่นๆ ในไตรมาสนี้เท่ากับ 1,997 ล้านบาท 817 ล้านบาท และ 287 ล้านบาท คิดเป็น 64% 26% และ 10% ของรายได้รวม สำหรับรายได้อื่นๆ ประมาณ 83% มาจากหนี้สูญได้รับคืน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมภาษีเงินได้) เท่ากับ 3,235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญสำหรับธุรกิจบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้นในปลายปี 2554 และลดลง 36% หากเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา เพราะได้ตั้งสำรองพิเศษไว้แล้วสำหรับกรณีลูกหนี้ที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่ออายุหนี้ครบ 90 วัน ซึ่งตกอยู่ในช่วงระหว่างไตรมาสแรกของปี 2555 แม้ว่าจะต้องตั้งสำรอง 100% สำหรับหนี้ดังกล่าวแต่ปริมาณก็ไม่มากนัก

นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบปฏิบัติงานในองค์กรแบบ End to End เน้นให้แต่ละส่วนทำงานอย่างเข้าใจแท้จริง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของงานไปจนกระทั่งจุดสิ้นสุดของงานอย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัว อีกทั้งยังได้ขยายขอบเขตงานคอล เซ็นเตอร์ (Call Center) ให้เป็นงานด้านคอนแทกต์ เซ็นเตอร์ (Contact Center) เพื่อให้ครอบคลุมทุกช่องทางการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า รวมถึงออนไลน์ โดยการฝึกอบรมให้ความรู้พนักงานอย่างเข้มข้น และให้เกิดความเป็นเจ้าของร่วมกับองค์กรอีกด้วย จึงเป็นที่คาดว่าในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทสามารถกลับมาทำผลกำไรได้ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น