“เครดิตบูโร” ยกเลิกโครงการขึ้นบัญชีดำ ปชช.ค้างชำระ “ค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าโทรศัพท์” เนื่องจากไม่มีความจำเป็น และไม่เกี่ยวกับการขอสินเชื่อ เพราะถือเป็นสาธารณูปโภคของรัฐบาล หากใครไม่จ่ายตามเงื่อนไข ก็จะถูกตัดการให้บริการอยู่แล้ว
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร เปิดเผยว่า ขณะนี้ เครดิตบูโรได้ยกเลิกนโยบายที่จะผลักดันกฎหมายการจัดเก็บข้อมูลประวัติการชำระเงินค่าระบบสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์ ไว้ในระบบเครดิตบูโร เนื่องจากไม่มีความจำเป็น
ทั้งนี้ ระบบสาธารณูปโภคเป็นระบบของรัฐบาล มีหน้าที่จะต้องจัดการและให้บริการประชาชน ซึ่งมีระบบการควบคุมการค้างชำระหนี้ที่ดี และมีกระบวนการวิธีการลงโทษในตัวที่ดีแล้ว เพราะหากผู้บริโภคมีการค้างชำระก็จะต้องถูกตัดน้ำตัดไฟ
“ที่ผ่านมา ประชาชนยังไม่มีความเข้าใจ และเห็นประโยชน์การจัดเก็บข้อมูลประวัติการชำระเงินค่าระบบสาธารณูปโภค และมีความกลัวว่า หากค้างชำระค่าน้ำค่าไฟแล้วจะไม่สามารถขอสินเชื่อได้ ดังนั้น คณะกรรมการเครดิตบูโรจึงได้ยกเลิกนโยบายนี้ จนกว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเข้าใจและเห็นประโยชน์”
ขณะนี้ เครดิตบูโรมีนโยบายที่จะขยายฐานสมาชิกที่จะเข้ามาส่งข้อมูลประวัติการเงินการขอสินเชื่อ โดยที่จะเชิญชวนสหกรณ์ออมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ (บล.) ทำธุรกิจด้านซื้อขายตราสารอนุพันธ์ (ฟิวเจอร์ส) และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) มาเป็นสมาชิก
ล่าสุด กรมส่งเสริมสหกรณ์มีความสนใจที่จะให้สหกรณ์ออมทรัพย์เข้ามาเป็นสมาชิกเครดิตบูโร เพื่อให้มีการตรวจสอบประวัติทางการเงินของผู้กู้ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสีย ปัจจุบัน เครดิตบูโรมีสมาชิก 78 ราย มีจำนวนบัญชีสินเชื่อประมาณ 66 ล้านบัญชี