รับเหมาก่อสร้างรายย่อยดิ้นหางาน หลังเจอพิษค่าแรง 300 บาท แถมแบงก์เข้มให้เครดิต ขอรับช่วงงานจากผู้รับเหมารายใหญ่ หวังเลี้ยงธุรกิจ ด้านผู้บริหาร “พรีบิลท์” ชี้ เริ่มมีแนวโน้มงานก่อสร้างคอนโดฯ มีกำไรเพิ่มมากขึ้น เหตุผู้ประกอบการในตลาดหุ้นแห่ปั๊มคอนโดฯ
นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลายราย ได้ให้น้ำหนักในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้น จากเดิมปีละ 1-2 โครงการ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 4-5 โครงการ ส่งผลให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ต้องเลือกรับงานก่อสร้างมากขึ้น และส่วนใหญ่ได้หันไปงานก่อสร้างภาครัฐที่เกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภค ซึ่งมีมูลค่างานสูงถึงแสนล้านล้านบาท ในส่วนของผู้รับเหมารายย่อยที่รับงานก่อสร้างจากผู้ประกอบการโครงการอสังหาฯ ได้โดยตรงนั้น ผลจากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวัน และต้องจ่ายเป็นเงินสด รวมไปถึงการใช้เครดิตกับสถาบันการเงินจะค่อนข้างลำบากกว่าในอดีต ส่งผลให้ต้องปรับเปลี่ยนสถานะเป็นผู้รับเหมาฯ ที่ต้องรับช่วงงานจากผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่มาอีกทอดหนึ่ง
“การที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หันมาพัฒนาโครงการประเภทคอนโดฯ มากขึ้น ได้เริ่มผ่อนกฎเกณฑ์ด้วยการยอมให้ผู้รับเหมาก่อสร้างมีผลกำไรเพิ่มมากขึ้น โดยต้องการให้ทั้ง 2 ธุรกิจเติบโตไปพร้อมๆ กัน”
ในส่วนของบริษัทพรีบิลท์ฯ ปัจจุบัน มีงานในมือคิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงานเก่า 2,400 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงานใหม่ และยังอยู่ระหว่างรอประมูลงานก่อสร้างใหม่มูลค่าอีก 5,000 ล้านบาท รวมประมาณ 5-6 โครงการ
“การที่ปีนี้มีงานเข้ามาในมือมาก จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มแรงงานฝีมือด้วย จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 3,000 คน ปีนี้จะเพิ่มอีกเป็น 4,000 คน แม้ว่าจะมีงานเข้ามามาก แต่ต้นทุนการก่อสร้างก็เพิ่มขึ้นเช่นกันประมาณ 10% ขณะที่ต้นทุนการพัฒนาโครงการเองก็จะเพิ่มสูงกว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับมูลค่างานแต่ละโครงการ เพราะงานก่อสร้างจะเป็นต้นทุนของโครงการทั้งหมดประมาณ 70%”
สำหรับเป้ารายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมที่ 3,700 ล้านบาท เติบโต 23% เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา โดยวางเป้่าหมายรายได้ภายใน 3-4 ปี ในระดับที่ 7,000-10,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 18% ขึ้นไป
นายวิโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาฯ ภายใต้แบรนด์ “เดอะ เทมโป” ขณะนี้ได้ดำเนินการตามเป้าของการพัฒนาโครงการได้ครบหมดแล้วรวม 5 โครงการ คงเหลือยอดขายรอรับรู้รายได้ (Bagklog) ประมาณ 1,200 ล้านบาท จากมูลค่างานโครงการทั้งหมด 1,382 ล้านบาท
นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลายราย ได้ให้น้ำหนักในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้น จากเดิมปีละ 1-2 โครงการ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 4-5 โครงการ ส่งผลให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ต้องเลือกรับงานก่อสร้างมากขึ้น และส่วนใหญ่ได้หันไปงานก่อสร้างภาครัฐที่เกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภค ซึ่งมีมูลค่างานสูงถึงแสนล้านล้านบาท ในส่วนของผู้รับเหมารายย่อยที่รับงานก่อสร้างจากผู้ประกอบการโครงการอสังหาฯ ได้โดยตรงนั้น ผลจากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวัน และต้องจ่ายเป็นเงินสด รวมไปถึงการใช้เครดิตกับสถาบันการเงินจะค่อนข้างลำบากกว่าในอดีต ส่งผลให้ต้องปรับเปลี่ยนสถานะเป็นผู้รับเหมาฯ ที่ต้องรับช่วงงานจากผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่มาอีกทอดหนึ่ง
“การที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หันมาพัฒนาโครงการประเภทคอนโดฯ มากขึ้น ได้เริ่มผ่อนกฎเกณฑ์ด้วยการยอมให้ผู้รับเหมาก่อสร้างมีผลกำไรเพิ่มมากขึ้น โดยต้องการให้ทั้ง 2 ธุรกิจเติบโตไปพร้อมๆ กัน”
ในส่วนของบริษัทพรีบิลท์ฯ ปัจจุบัน มีงานในมือคิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงานเก่า 2,400 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงานใหม่ และยังอยู่ระหว่างรอประมูลงานก่อสร้างใหม่มูลค่าอีก 5,000 ล้านบาท รวมประมาณ 5-6 โครงการ
“การที่ปีนี้มีงานเข้ามาในมือมาก จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มแรงงานฝีมือด้วย จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 3,000 คน ปีนี้จะเพิ่มอีกเป็น 4,000 คน แม้ว่าจะมีงานเข้ามามาก แต่ต้นทุนการก่อสร้างก็เพิ่มขึ้นเช่นกันประมาณ 10% ขณะที่ต้นทุนการพัฒนาโครงการเองก็จะเพิ่มสูงกว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับมูลค่างานแต่ละโครงการ เพราะงานก่อสร้างจะเป็นต้นทุนของโครงการทั้งหมดประมาณ 70%”
สำหรับเป้ารายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมที่ 3,700 ล้านบาท เติบโต 23% เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา โดยวางเป้่าหมายรายได้ภายใน 3-4 ปี ในระดับที่ 7,000-10,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 18% ขึ้นไป
นายวิโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาฯ ภายใต้แบรนด์ “เดอะ เทมโป” ขณะนี้ได้ดำเนินการตามเป้าของการพัฒนาโครงการได้ครบหมดแล้วรวม 5 โครงการ คงเหลือยอดขายรอรับรู้รายได้ (Bagklog) ประมาณ 1,200 ล้านบาท จากมูลค่างานโครงการทั้งหมด 1,382 ล้านบาท