ตลท. เร่งเพิ่มสภาพคล่อง ห่วงมาร์เกตแคปโตแต่ลงทุนยังกระจุกตัว

ผู้บริหาร ตลท. เตรียมแผนโรดโชว์ บจ. หลังมาร์เกตแคปโตกว่า 10 ล้านล้านบาท เพื่อเติมสภาพคล่องหุ้นให้สมดุลทั้งตลาด หลังพบมีการกระจุกตัวในการลงทุน 22 บริษัท ขณะที่ 448 บริษัท ยังมีการซื้อขายเบาบาง

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทย โดยยอมรับว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นตามมูลค่ามาร์เกตแคป เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอื่นในภูมิภาคเดียวกันแล้ว ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่นมากกว่าตลาดอื่น

“ขนาดของตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้น สะท้อนความน่าสนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะนักลงทุนจะใช้เป็นปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกลงทุนในพอร์ตโพลิโอ (Portfolio) การลงทุน”

นายชนิตร กล่าวว่า แม้ขนาดของตลาดหุ้นไทย และจำนวน บจ. จะเพิ่มขึ้น แต่สภาพคล่องในการซื้อขายก็มีความสำคัญ ซึ่งในจุดนี้ตลาดหุ้นไทยยังต้องเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ บจ. ในตลาดหุ้นมากขึ้น เพราะเมื่อเปรียบเทียบการซื้อขายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคแล้วพบว่า หุ้นไทยมีการซื้อขายที่กระจุกตัวเฉลี่ยระดับน้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 30 ล้านบาท มีสูงถึง 448 บริษัท, การซื้อขายเฉลี่ยระหว่าง 30-300 ล้านบาท หรือประมาณ 1-10 ล้านดอลลาร์ มีเพียงเล็กน้อยไม่ถึง 100 บริษัท และส่วนที่เกินกว่า 300 ล้านบาท หรือมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ มีเพียง 22 บริษัท

ทั้งนี้ หากเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ทั้งเกาหลีใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง พบว่าของเขาจะมีกลุ่มหุ้นที่มีการซื้อขาย 30-300 ล้านบาทค่อนข้างเยอะ ทำให้สามารถผลักดันให้ขึ้นมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุนได้ง่าย ซึ่งแนวทางที่ ตลท. สามารถทำได้ คือ ต้องพยายามนำ บจ. ออกไปสู่สายตานักลงทุนให้มากขึ้น โดยผ่านการโรดโชว์ข้อมูล

โดยวานนี้ (3 พ.ค.55) ดัชนีหุ้นไทยทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี ปิดที่ระดับ 1,228.49 จุด โดยมูลค่าตลาด (มาร์เกตแคป) ได้มีการทำสถิติสูงสุดที่ 10.11 ล้านล้านบาท ด้วยเช่นกัน ถือเป็นมูลค่าสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้ง ตลท. เป็นการเพิ่มขึ้น 19.8% จากปลายปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 8.41 แสนล้านบาท


สำหรับ บจ. ที่มีมูลค่ามาร์เกตแคป ปรับขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 33.06%, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เพิ่มขึ้น 30.25%, บริษัท ซีพีออลล์ (CPALL) เพิ่มขึ้น 47.83%, ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เพิ่มขึ้น 34.02% และอันดับ 5 บริษัท ปตท. (PTT) เพิ่มขึ้น 10.38% โดยพบว่า ปตท. เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามาร์เกตแคปใหญ่อันดับ 1 ในตลาดหุ้นไทย ที่ระดับ 1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของมูลค่ามาร์เกตแคปทั้งตลาด