เลือกลุยรายกลุ่ม
เปิดตลาดรับสัปดาห์ใหม่วันนี้ยังไม่มีปัจจัยชี้นำ ตลาดหุ้นต่างประเทศไม่คึกคักมากนัก เพื่อนบ้านย่านเอเชียเคลื่อนไหวช่วงแคบๆ ส่วนตลาดหุ้นไทยคงจะประคับประคองตัว แต่อาจจะร้อนแรงในหุ้นรายกลุ่ม
หุ้นในกลุ่มบันเทิง อาหาร และค้าปลีก โดดเด่นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความคาดหมายแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส แต่ราคาก็ขึ้นมาซึมซับข่าวดีมากแล้ว และไม่แน่ใจว่าจะเล่นกันต่อหรือไม่ ส่วนอีกหลายกลุ่มยังรอลุ้นผลประกอบการ โดยหวังว่าเมื่อประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก ราคาหุ้นจะขยับขึ้น แต่เช่นเดียวกัน ราคาหุ้นส่วนใหญ่ขยับขึ้นมาล่วงหน้าแล้ว และอาจเกิดการขายทำกำไรเมื่อประกาศผลประกอบการก่อได้
ปัจจัยลบที่เริ่มถูกจับตาคือ ปัญหาเงินเฟ้อที่มีสัญญาณรุนแรงขึ้น และปัญหาขาดดุลการค้าในเดือนมีนาคมที่พุ่งขึ้น 4.58 พันล้านดอลลาร์ และยอดการส่งออกลดลงเกือบ 4% ทำให้ต้องจับตาดูในเดือนต่อไป เพราะถ้าขาดดุลการค้าต่อเนื่องจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน
วันนี้ นักลงทุนอาจให้ความสำคัญกับการสร้างจุดสูงสุดใหม่ของตลาด เพราะถ้าดัชนีผ่าน1,214 ขึ้นไปได้ สัญญาณทางเทคนิดจะเปลี่ยนไป และดัชนีมีโอกาสขยับไปที่ 1,250 จุด แต่เนื่องจากขาดแคลนข่าวดีกระตุ้น จึงไม่แน่ใจว่าดัชนีจะตีฝ่าแนวต้านสำคัญไปได้หรือไม่ และเป็นไปได้ว่าอาจจะขยับขึ้นลงในกรอบแคบๆ
ถ้าฟังเสียงนักวิเคราะห์แล้ว ส่วนใหญ่แนะนำให้รอจังหวะรับมากกว่าที่จะไล่ซื้อ แสดงว่า ราคาหุ้นเริ่มจะเต็มอิ่ม และโอกาสปรับฐานลงมามีมากกว่าที่จะเดินหน้าต่อ ซึ่งควรกำหนดกลยุทธ์ตามคำแนะนำของนักวิเคราะห์ ไม่ใจร้อนไล่ซื้อหุ้น
เปิดตลาดรับสัปดาห์ใหม่วันนี้ยังไม่มีปัจจัยชี้นำ ตลาดหุ้นต่างประเทศไม่คึกคักมากนัก เพื่อนบ้านย่านเอเชียเคลื่อนไหวช่วงแคบๆ ส่วนตลาดหุ้นไทยคงจะประคับประคองตัว แต่อาจจะร้อนแรงในหุ้นรายกลุ่ม
หุ้นในกลุ่มบันเทิง อาหาร และค้าปลีก โดดเด่นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความคาดหมายแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส แต่ราคาก็ขึ้นมาซึมซับข่าวดีมากแล้ว และไม่แน่ใจว่าจะเล่นกันต่อหรือไม่ ส่วนอีกหลายกลุ่มยังรอลุ้นผลประกอบการ โดยหวังว่าเมื่อประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก ราคาหุ้นจะขยับขึ้น แต่เช่นเดียวกัน ราคาหุ้นส่วนใหญ่ขยับขึ้นมาล่วงหน้าแล้ว และอาจเกิดการขายทำกำไรเมื่อประกาศผลประกอบการก่อได้
ปัจจัยลบที่เริ่มถูกจับตาคือ ปัญหาเงินเฟ้อที่มีสัญญาณรุนแรงขึ้น และปัญหาขาดดุลการค้าในเดือนมีนาคมที่พุ่งขึ้น 4.58 พันล้านดอลลาร์ และยอดการส่งออกลดลงเกือบ 4% ทำให้ต้องจับตาดูในเดือนต่อไป เพราะถ้าขาดดุลการค้าต่อเนื่องจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน
วันนี้ นักลงทุนอาจให้ความสำคัญกับการสร้างจุดสูงสุดใหม่ของตลาด เพราะถ้าดัชนีผ่าน1,214 ขึ้นไปได้ สัญญาณทางเทคนิดจะเปลี่ยนไป และดัชนีมีโอกาสขยับไปที่ 1,250 จุด แต่เนื่องจากขาดแคลนข่าวดีกระตุ้น จึงไม่แน่ใจว่าดัชนีจะตีฝ่าแนวต้านสำคัญไปได้หรือไม่ และเป็นไปได้ว่าอาจจะขยับขึ้นลงในกรอบแคบๆ
ถ้าฟังเสียงนักวิเคราะห์แล้ว ส่วนใหญ่แนะนำให้รอจังหวะรับมากกว่าที่จะไล่ซื้อ แสดงว่า ราคาหุ้นเริ่มจะเต็มอิ่ม และโอกาสปรับฐานลงมามีมากกว่าที่จะเดินหน้าต่อ ซึ่งควรกำหนดกลยุทธ์ตามคำแนะนำของนักวิเคราะห์ ไม่ใจร้อนไล่ซื้อหุ้น
