บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ว่า “เก็งกำไรแบบระวังตัวมากขึ้น” แนวโน้มตลาดวันนี้ : เป็นบวก แต่ระวังความผันผวนมากขึ้น
ภาพรวมน่าจะยังอิงทางบวกได้ต่อ หลังการประชุมเฟดผ่านพ้นไป พร้อมการระบุถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และคำยืนยันการรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2014 รวมถึงพร้อมใช้งบดุลบัญชีของเฟดเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจหากจำเป็น อีกทั้งผลประกอบการที่ดีหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปฟื้นตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี อาจต้องระวังความผันผวนระหว่างวันให้มากขึ้น หลังจากต่างชาติเริ่มส่งสัญญาณที่ไม่ชัดเจน โดยขายสุทธิออกมาในตลาดหุ้นอีกวานนี้ ทางฝ่ายยังมองตลาดขาดปัจจัยบวกที่เด่นชัดในการขับเคลื่อนการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จึงอาจมีกรอบการปรับขึ้นที่จำกัด มองแถว 1207, 1214 ก่อน แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะดูสดใสขึ้น แต่ก็ยังต้องใช้เวลารอการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ความคาดหวังเรื่องสภาพคล่องเพิ่มเติมจาก QE3 ได้ยุติลงชั่วคราวในระยะสั้นไปจากรายงานการประชุมเฟดในครั้งก่อน โดยหากจะมีสภาพคล่องระลอกใหม่เข้ามาก็น่าจะเป็นจากทางฝั่งยุโรปมากกว่า ซึ่งอาจต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากปัญหาหนี้ที่เกิดขึ้นอีกครั้งก่อนจะมีการเยียวยาอีกรอบ
แนวต้าน : 1,207-1,214 แนวรับ : 1,194-1,188
วิเคราะห์รายวัน
DCC : ทยอยขาย งบ 1Q55 แทบไม่เติบโต y-y
กำไร 1Q55 เติบโตน้อยมาก ปรับประมาณการกำไรลงเล็กน้อย แต่คาดหมายแนวโน้มกำไรดีขึ้น ปรับลดคำแนะนำเป็น “ทยอยขาย” ราคาเหมาะสม 56 บาท
PTTEP : ทยอยซื้อ กำไร 1Q55 ดีกว่าคาด
กำไร 1Q55 จาก Core Business โตขึ้น 56.85%y-y และ 10.47%q-q SHELL ได้ปรับราคาเสนอซื้อ Cove Energy มาเท่ากับ PTTEP ที่ 220 เพนซ์ จึงมีโอกาสมากกว่า สำหรับ PTTEP ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะยื่นข้อสรุปสุดท้ายเข้าไปหรือไม่ ประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 ที่ 52,108 ล้านบาท โตขึ้น 16.45%y-y แนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาเหมาะสม 204 บาท
APCS : ทยอยขาย แนวโน้ม 1Q55 กลับมาเป็นกำไรอีกครั้ง
อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัว ปริมาณการผลิตรถยนต์ในไตรมาส 1Q55 ปรับเพิ่มขึ้น 189%q-q มาที่ 499,560 คัน คาดผลดำเนินงานในไตรมาส 1Q55 พลิกกลับจากขาดทุนในไตรมาสก่อนหน้า มาเป็นกำไร 38.10 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 6.55 บาทแนะนำ “ทยอยขาย”
Market News
MBKET : ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1Q55 ที่ 179.53 ล้านบาทลดลง 7.14%y-y (ที่มา: SET)
ผลประกอบการไตรมาส 1Q55 ปรับลดลง 7%y-y (แต่เพิ่มขึ้น 68%q-q) มาที่ 179.53 ล้านบาทปรับตามมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาด SET&MAI โดยรายได้หลักกว่า 80% ของ MBKET ยังมาจากค่านายหน้า ผลดำเนินงานในไตรมาสนี้ออกมาดีกว่าที่ทางฝ่ายคาดไว้ที่ 172.13 ล้านบาท จากต้นทุนทางการเงินไม่สูงอย่างที่ประมาณไว้ โดยผลดำเนินงานในไตรมาสแรกคิดเป็น 24% ของประมาณการทั้งปีที่ 736.33 ล้านบาท ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ถือ” โดยมีราคาพื้นฐานปี 2555 อิง P/BV 1.80 เท่าที่ 14.10 บาท
SCC : ธุรกิจปิโตรเคมีฉุดกำไร 1Q54 ลดลง 35% (ที่มา: SET)
กำไร 1Q55 ลดลง y-y ตามคาดหมาย โดยหลักใหญ่มาจากธุรกิจปิโตรเคมี และธุรกิจกระดาษ ลดลง 74% y-y และ 4% y-y ขณะที่ธุรกิจปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 12% y-y และ 70% y-y ธุรกิจปิโตรเคมีรับผลลบตามส่วนต่างผลิตภัณฑ์ ธุรกิจกระดาษมี Margin อ่อนลงเล็กน้อย ส่วนธุรกิจปูนซีเมนต์/วัสดุก่อสร้างเติบโตจากรายได้ฟื้นตัวหลังกิจกรรมก่อสร้างกลับมาหลังน้ำท่วม ทางฝ่ายคาดหมายกำไรปีนี้เติบโต 5% โดยมองวงจรราคาปิโตรเคมีปีนี้อยู่ในช่วงต่ำสุด กำไรจากปิโตรเคมีคงต่ำกว่าปีก่อน แต่ 3 ธุรกิจหลักที่เหลือน่าจะช่วยพยุงกำไรโดยรวมให้เพิ่มจากปีก่อนเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน เชื่อว่า เมื่อวงจรราคาปิโตรเคมีดีขึ้นในปีหน้า และการเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจปูนซีเมนต์/วัสดุก่อสร้างน่าจะนำพากำไรกลับเติบโต 22% ในปีหน้า ทั้งนี้ คาดว่าจะได้แรงหนุนจากการลงทุนธุรกิจวัสดุก่อสร้าง/ปูนซีเมนต์ในภูมิภาค ที่เริ่มส่งผลบวกในปีหน้า โดยทางฝ่ายยังมองบวกในระยะยาว คงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐาน 364 บาท
ภาพรวมน่าจะยังอิงทางบวกได้ต่อ หลังการประชุมเฟดผ่านพ้นไป พร้อมการระบุถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และคำยืนยันการรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2014 รวมถึงพร้อมใช้งบดุลบัญชีของเฟดเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจหากจำเป็น อีกทั้งผลประกอบการที่ดีหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปฟื้นตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี อาจต้องระวังความผันผวนระหว่างวันให้มากขึ้น หลังจากต่างชาติเริ่มส่งสัญญาณที่ไม่ชัดเจน โดยขายสุทธิออกมาในตลาดหุ้นอีกวานนี้ ทางฝ่ายยังมองตลาดขาดปัจจัยบวกที่เด่นชัดในการขับเคลื่อนการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จึงอาจมีกรอบการปรับขึ้นที่จำกัด มองแถว 1207, 1214 ก่อน แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะดูสดใสขึ้น แต่ก็ยังต้องใช้เวลารอการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ความคาดหวังเรื่องสภาพคล่องเพิ่มเติมจาก QE3 ได้ยุติลงชั่วคราวในระยะสั้นไปจากรายงานการประชุมเฟดในครั้งก่อน โดยหากจะมีสภาพคล่องระลอกใหม่เข้ามาก็น่าจะเป็นจากทางฝั่งยุโรปมากกว่า ซึ่งอาจต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากปัญหาหนี้ที่เกิดขึ้นอีกครั้งก่อนจะมีการเยียวยาอีกรอบ
แนวต้าน : 1,207-1,214 แนวรับ : 1,194-1,188
วิเคราะห์รายวัน
DCC : ทยอยขาย งบ 1Q55 แทบไม่เติบโต y-y
กำไร 1Q55 เติบโตน้อยมาก ปรับประมาณการกำไรลงเล็กน้อย แต่คาดหมายแนวโน้มกำไรดีขึ้น ปรับลดคำแนะนำเป็น “ทยอยขาย” ราคาเหมาะสม 56 บาท
PTTEP : ทยอยซื้อ กำไร 1Q55 ดีกว่าคาด
กำไร 1Q55 จาก Core Business โตขึ้น 56.85%y-y และ 10.47%q-q SHELL ได้ปรับราคาเสนอซื้อ Cove Energy มาเท่ากับ PTTEP ที่ 220 เพนซ์ จึงมีโอกาสมากกว่า สำหรับ PTTEP ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะยื่นข้อสรุปสุดท้ายเข้าไปหรือไม่ ประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 ที่ 52,108 ล้านบาท โตขึ้น 16.45%y-y แนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาเหมาะสม 204 บาท
APCS : ทยอยขาย แนวโน้ม 1Q55 กลับมาเป็นกำไรอีกครั้ง
อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัว ปริมาณการผลิตรถยนต์ในไตรมาส 1Q55 ปรับเพิ่มขึ้น 189%q-q มาที่ 499,560 คัน คาดผลดำเนินงานในไตรมาส 1Q55 พลิกกลับจากขาดทุนในไตรมาสก่อนหน้า มาเป็นกำไร 38.10 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 6.55 บาทแนะนำ “ทยอยขาย”
Market News
MBKET : ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1Q55 ที่ 179.53 ล้านบาทลดลง 7.14%y-y (ที่มา: SET)
ผลประกอบการไตรมาส 1Q55 ปรับลดลง 7%y-y (แต่เพิ่มขึ้น 68%q-q) มาที่ 179.53 ล้านบาทปรับตามมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาด SET&MAI โดยรายได้หลักกว่า 80% ของ MBKET ยังมาจากค่านายหน้า ผลดำเนินงานในไตรมาสนี้ออกมาดีกว่าที่ทางฝ่ายคาดไว้ที่ 172.13 ล้านบาท จากต้นทุนทางการเงินไม่สูงอย่างที่ประมาณไว้ โดยผลดำเนินงานในไตรมาสแรกคิดเป็น 24% ของประมาณการทั้งปีที่ 736.33 ล้านบาท ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ถือ” โดยมีราคาพื้นฐานปี 2555 อิง P/BV 1.80 เท่าที่ 14.10 บาท
SCC : ธุรกิจปิโตรเคมีฉุดกำไร 1Q54 ลดลง 35% (ที่มา: SET)
กำไร 1Q55 ลดลง y-y ตามคาดหมาย โดยหลักใหญ่มาจากธุรกิจปิโตรเคมี และธุรกิจกระดาษ ลดลง 74% y-y และ 4% y-y ขณะที่ธุรกิจปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 12% y-y และ 70% y-y ธุรกิจปิโตรเคมีรับผลลบตามส่วนต่างผลิตภัณฑ์ ธุรกิจกระดาษมี Margin อ่อนลงเล็กน้อย ส่วนธุรกิจปูนซีเมนต์/วัสดุก่อสร้างเติบโตจากรายได้ฟื้นตัวหลังกิจกรรมก่อสร้างกลับมาหลังน้ำท่วม ทางฝ่ายคาดหมายกำไรปีนี้เติบโต 5% โดยมองวงจรราคาปิโตรเคมีปีนี้อยู่ในช่วงต่ำสุด กำไรจากปิโตรเคมีคงต่ำกว่าปีก่อน แต่ 3 ธุรกิจหลักที่เหลือน่าจะช่วยพยุงกำไรโดยรวมให้เพิ่มจากปีก่อนเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน เชื่อว่า เมื่อวงจรราคาปิโตรเคมีดีขึ้นในปีหน้า และการเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจปูนซีเมนต์/วัสดุก่อสร้างน่าจะนำพากำไรกลับเติบโต 22% ในปีหน้า ทั้งนี้ คาดว่าจะได้แรงหนุนจากการลงทุนธุรกิจวัสดุก่อสร้าง/ปูนซีเมนต์ในภูมิภาค ที่เริ่มส่งผลบวกในปีหน้า โดยทางฝ่ายยังมองบวกในระยะยาว คงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐาน 364 บาท