xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยจับมือเจบิก-แบงก์ญี่ปุ่นปล่อยกู้ซอฟท์โลน2.8พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กสิกรไทยจับมือเจบิก และ 11 แบงก์ท้องถิ่นญี่ปุ่น ปล่อยกู้ซอฟท์โลนให้ธุรกิจญี่ปุ่นในไทยที่มีบริษัทแม่เป็นเอสเอ็มอีในญี่ปุ่น-ธุรกิจไทยที่เกี่ยวเนื่องกับญี่ปุ่น ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมวงเงินรวม 2,800 ล้าน นาน 7 ปี ให้วงเงินสูงสุด 100%
 

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK) เปิดเผยว่า เพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจของผู้ประกอบการญี่ปุ่นและธุรกิจไทยที่เกี่ยวเนื่องกับญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อปี 2554 ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมกับธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นหรือเจบิค (JBIC) และธนาคารท้องถิ่นของญี่ปุ่นอีก 11 แห่ง ให้การสนับสนุนสินเชื่อระยะยาวสูงสุด 7 ปี วงเงินกู้ 2,800 ล้านบาท หรือ 7,500 ล้านเยน โดยธนาคารกสิกรไทยคิดดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 4-5% ต่อปี ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของมูลค่าการลงทุน มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 1 ปีแรก

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์ขอรับสินเชื่อดังกล่าว ได้แก่ ผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทย หรือผู้ประกอบการที่มีผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทแม่ในญี่ปุ่นมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1,000 ล้านเยน หรือผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับผู้ประกอบการญี่ปุ่น คือ เป็นธุรกิจที่สั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการญี่ปุ่นหรือเป็นผู้ผลิตสินค้าจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการญี่ปุ่น ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อปี 2554 ทั้งธุรกิจที่ได้รับความเสียหายทางตรง คือ สถานประกอบการถูกน้ำท่วม และธุรกิจที่ได้รับความเสียหายทางอ้อม คือ ตัวสถานประกอบการไม่ได้ถูกน้ำท่วม แต่กระบวนการผลิตได้รับผลกระทบ อันเนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบหรือผลจากระบบการขนส่งที่เสียหาย

สำหรับวงเงินกู้ 2,800 ล้านบาทดังกล่าว เป็นเงินทุนที่ได้รับจัดสรรจากเจบิก 60% ส่วนอีก 40% เป็นเงินทุนที่ได้รับจัดสรรจากธนาคารท้องถิ่นญี่ปุ่น 11 แห่ง ได้แก่ The Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ, The Hokuto Bank, The Shonai Bank, The Toho Bank , The Hachijuni Bank, The Shizuoka Bank, The Bank of Kyoto, The Chugoku Bank, The Hiroshima Bank, The Bank of Fukuokaและ The Higo Bank

ส่วนเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมราว 1.3 ล้านล้านบาท ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยานยนต์ พื้นที่ความเสียหายทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่อยู่ในเขตพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี ซึ่งเป็นนิคมอุตสากรรม ที่มีธุรกิจญี่ปุ่นดำเนินการอยู่จำนวนมาก โดยผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทยและเป็นลูกค้าธนาคารกสิกรไทย ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 1,800 บริษัท ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมโดยตรง 300 บริษัท จากจำนวนธุรกิจญี่ปุ่นที่มีบริษัทแม่เป็นเอสเอ็มอีในญี่ปุ่น ที่มีการลงทุนในไทยมีจำนวนทั้งสิ้นราว 3,200 บริษัท
กำลังโหลดความคิดเห็น