ถอยลงไปใหม่
แม้ว่าเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นจะกระเตื้องขึ้น ดัชนีบวก 7.82 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายก็ยังเบาบาง 23,696 ล้านบาท เป็นสิ่งสะท้อนว่านักลงทุนยังไม่พร้อมที่จะกลับมาตัดสินใจอย่างเต็มตัว และส่วนใหญ่ยังรอคอยจังหวะขายกันอยู่ ทำให้หุ้นไม่อาจดีดตัวขึ้นได้แรงๆ เพราะเจอแรงขายต้านทานตลอด โดยแม้จะมีข่าวดีเข้ามาหนุน แต่ดัชนีไปวิ่งไปไม่ได้ไกล นอกจากนั้น ยังมีการแกว่งตัวอีกด้วย บ่งบอกสัญญาณว่าภาวะตลาดยังมีความเปราะบาง ซึ่งหากมีปัจจัยลบกระทบ ดัชนีก็จะปรับฐานลงอีก
สำหรับวันนี้ ปัจจัยภายนอกกลับไปทางด้านลบอีกครั้ง ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ติดลบ 82 จุด ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 102 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาทองคำทรุดมาเหลือ 1,540 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตลาดหุ้นยุโรปทรุดตัวลงใหม่ หลายตลาดดัชนีปรับตัวลงกว่า 1% ขณะที่ตลาดหุ้นย่านเอเชียก็ยังเงียบเหงาไร้ทิศทาง ตลาดหุ้นไทยจึงไม่มีข่าวดีจุนเจือ และมีแนวโน้มที่จะถดถอยลงมาใหม่ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก
แม้ว่าต่างชาติจะยังซื้อสุทธิกว่า 1 พันล้านบาท และผลประกอบการธนาคารขนาดใหญ่จะประกาศมาแล้ว โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นสูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์เล็กน้อย แต่จะไม่ส่งแรงกระตุ้นกับราคาหุ้นมากนัก เนื่องจากหุ้นธนาคารพาณิชย์ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้า ซึมซับรับความคาดหมายผลกำไรไตรมาสแรกระดับหนึ่งแล้ว ส่วนหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มอื่นก็ไม่มีปัจจัยสนับสนุน จึงไม่มีหุ้นกลุ่มไหนโดดเด่น และสามารถขับเคลื่อนให้ดัชนีเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
ดัชนีแถวๆ นี้อาจจะจูงใจให้มีการเก็บหุ้น แต่เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็บมาตั้งแต่หลุด 1,200 จุดแล้ว ปรากฏว่าติดหุ้นกันเป็นแถว ทำให้ขยาดในการช้อน แต่หันมาปรับกลยุทธ์ใหม่ รอจังหวะขายมากกว่าซื้อ ซึ่งตัวเลขการซื้อขายของนักลงทุนทั่วไปเมื่อวานนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนรายย่อยพร้อมขายมากกว่าจะไล่ซื้อ เนื่องจากยังไม่มั่นใจว่าหุ้นจะเปลี่ยนทิศทางเป็นรอบขาขึ้น ดังนั้น เมื่อมีข่าวดีเข้ามากระตุ้นการลงทุน จึงไม่ผลีผลามไล่ซื้อ แต่จะระบายหุ้นที่ช้อนเก็บมาในช่วงที่ต้นทุนสูงออกไปก่อน และยิ่งไม่มีปัจจัยบวกเข้ามา แต่มีความเคลื่อนไหวในด้านลบ นักลงทุนคงจะได้แต่นั่งดูกระดาน ไม่ทำกิจกรรมซื้อขายมากนัก เพราะไม่เห็นโอกาสทำกำไรระยะสั้น
แม้ว่าเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นจะกระเตื้องขึ้น ดัชนีบวก 7.82 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายก็ยังเบาบาง 23,696 ล้านบาท เป็นสิ่งสะท้อนว่านักลงทุนยังไม่พร้อมที่จะกลับมาตัดสินใจอย่างเต็มตัว และส่วนใหญ่ยังรอคอยจังหวะขายกันอยู่ ทำให้หุ้นไม่อาจดีดตัวขึ้นได้แรงๆ เพราะเจอแรงขายต้านทานตลอด โดยแม้จะมีข่าวดีเข้ามาหนุน แต่ดัชนีไปวิ่งไปไม่ได้ไกล นอกจากนั้น ยังมีการแกว่งตัวอีกด้วย บ่งบอกสัญญาณว่าภาวะตลาดยังมีความเปราะบาง ซึ่งหากมีปัจจัยลบกระทบ ดัชนีก็จะปรับฐานลงอีก
สำหรับวันนี้ ปัจจัยภายนอกกลับไปทางด้านลบอีกครั้ง ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ติดลบ 82 จุด ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 102 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาทองคำทรุดมาเหลือ 1,540 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตลาดหุ้นยุโรปทรุดตัวลงใหม่ หลายตลาดดัชนีปรับตัวลงกว่า 1% ขณะที่ตลาดหุ้นย่านเอเชียก็ยังเงียบเหงาไร้ทิศทาง ตลาดหุ้นไทยจึงไม่มีข่าวดีจุนเจือ และมีแนวโน้มที่จะถดถอยลงมาใหม่ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก
แม้ว่าต่างชาติจะยังซื้อสุทธิกว่า 1 พันล้านบาท และผลประกอบการธนาคารขนาดใหญ่จะประกาศมาแล้ว โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นสูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์เล็กน้อย แต่จะไม่ส่งแรงกระตุ้นกับราคาหุ้นมากนัก เนื่องจากหุ้นธนาคารพาณิชย์ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้า ซึมซับรับความคาดหมายผลกำไรไตรมาสแรกระดับหนึ่งแล้ว ส่วนหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มอื่นก็ไม่มีปัจจัยสนับสนุน จึงไม่มีหุ้นกลุ่มไหนโดดเด่น และสามารถขับเคลื่อนให้ดัชนีเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
ดัชนีแถวๆ นี้อาจจะจูงใจให้มีการเก็บหุ้น แต่เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็บมาตั้งแต่หลุด 1,200 จุดแล้ว ปรากฏว่าติดหุ้นกันเป็นแถว ทำให้ขยาดในการช้อน แต่หันมาปรับกลยุทธ์ใหม่ รอจังหวะขายมากกว่าซื้อ ซึ่งตัวเลขการซื้อขายของนักลงทุนทั่วไปเมื่อวานนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนรายย่อยพร้อมขายมากกว่าจะไล่ซื้อ เนื่องจากยังไม่มั่นใจว่าหุ้นจะเปลี่ยนทิศทางเป็นรอบขาขึ้น ดังนั้น เมื่อมีข่าวดีเข้ามากระตุ้นการลงทุน จึงไม่ผลีผลามไล่ซื้อ แต่จะระบายหุ้นที่ช้อนเก็บมาในช่วงที่ต้นทุนสูงออกไปก่อน และยิ่งไม่มีปัจจัยบวกเข้ามา แต่มีความเคลื่อนไหวในด้านลบ นักลงทุนคงจะได้แต่นั่งดูกระดาน ไม่ทำกิจกรรมซื้อขายมากนัก เพราะไม่เห็นโอกาสทำกำไรระยะสั้น