ตลาดหุ้นวันนี้แม้จะฟื้นตัวขึ้น แต่ก็เป็นการฟื้นตัวที่เปราะบาง และยังไม่ใช่สัญญาณการเริ่มต้นรอบใหม่ เนื่องจากสถานการณ์แวดล้อมยังแปรปรวน และนักลงทุนยังไม่กล้าผลีผลาม ขณะที่บางส่วนจ้องจังหวะขายทำกำไรระยะสั้น เพราะประเมินว่าหุ้นคงจะดีดตัวได้ไม่ไกล
ดัชนีวันนี้ปิดที่ระดับ 1,168.05 จุด เพิ่มขึ้น 7.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 23,696 ล้านบาท โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ราคาหุ้นมีการแกว่งตัว จากดัชนีที่บวกขึ้นไปกว่า 10 จุด ถูกแรงขายถอยลงมา สะท้อนให้เห็นถึงแรงต้านเมื่อราคาหุ้นขึ้นร้อนแรง และแรงต้านจะมากขึ้นหากดัชนีไต่ระดับใกล้ 1,200 จุด เนื่องจากมีนักลงทุนติดหุ้นไว้จำนวนมาก นอกจากนั้น มูลค่าซื้อขายที่หดตัวเหลือเพียง 23,000 ล้านบาท ทั้งที่ราคาปรับตัวขึ้น เป็นสิ่งบ่งบอกว่านักลงทุนยังมีความแหยงในความผันผวนอยู่
สำหรับตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ อาจจะกลับสู่ความซบเซาอีกครั้งก็ได้ เพราะตลาดหุ้นต่างประเทศไม่สดใส หุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลงอีกครั้งแม้จะไม่รุนแรงก็ตาม ขณะที่ดาวโจนส์ล่าสุดลบประมาณ 50 จุด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นย่านเอเชียและต่อเนื่องถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ส่วนนักลฃงทุนต่างชาติแม้จะกลับเข้ามาซื้อใหม่ แต่ยอดซื้อยังไม่มากนัก นอกจากนั้น ความเคลื่อนไหวของต่างชาติในช่วงนี้ก็ไม่สามารถจับทิศทางที่แน่นอนได้
ในระยะสั้น ภาวะการลงทุนคงจะแกว่งไปตามปัจจัยภายนอก เมื่อปัจจัยภายนอกเป็นลบ โอกาสที่หุ้นไทยจะปรับตัวลงตามจึงมีความเป็นไปได้สูง แม้วันนี้จะกระเตื้องขึ้น แต่พรุ่งนี้อาจทรุดตัวกลับไปใหม่ ลักษณะเดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย หาจังหวะเก็งกำไรยาก และถ้ากลัวพลาดไม่อยากเจ็บเนื้อเจ็บตัวควรพยายามทำตัวนิ่งๆ ไว้ก่อน
ดัชนีวันนี้ปิดที่ระดับ 1,168.05 จุด เพิ่มขึ้น 7.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 23,696 ล้านบาท โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ราคาหุ้นมีการแกว่งตัว จากดัชนีที่บวกขึ้นไปกว่า 10 จุด ถูกแรงขายถอยลงมา สะท้อนให้เห็นถึงแรงต้านเมื่อราคาหุ้นขึ้นร้อนแรง และแรงต้านจะมากขึ้นหากดัชนีไต่ระดับใกล้ 1,200 จุด เนื่องจากมีนักลงทุนติดหุ้นไว้จำนวนมาก นอกจากนั้น มูลค่าซื้อขายที่หดตัวเหลือเพียง 23,000 ล้านบาท ทั้งที่ราคาปรับตัวขึ้น เป็นสิ่งบ่งบอกว่านักลงทุนยังมีความแหยงในความผันผวนอยู่
สำหรับตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ อาจจะกลับสู่ความซบเซาอีกครั้งก็ได้ เพราะตลาดหุ้นต่างประเทศไม่สดใส หุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลงอีกครั้งแม้จะไม่รุนแรงก็ตาม ขณะที่ดาวโจนส์ล่าสุดลบประมาณ 50 จุด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นย่านเอเชียและต่อเนื่องถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ส่วนนักลฃงทุนต่างชาติแม้จะกลับเข้ามาซื้อใหม่ แต่ยอดซื้อยังไม่มากนัก นอกจากนั้น ความเคลื่อนไหวของต่างชาติในช่วงนี้ก็ไม่สามารถจับทิศทางที่แน่นอนได้
ในระยะสั้น ภาวะการลงทุนคงจะแกว่งไปตามปัจจัยภายนอก เมื่อปัจจัยภายนอกเป็นลบ โอกาสที่หุ้นไทยจะปรับตัวลงตามจึงมีความเป็นไปได้สูง แม้วันนี้จะกระเตื้องขึ้น แต่พรุ่งนี้อาจทรุดตัวกลับไปใหม่ ลักษณะเดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย หาจังหวะเก็งกำไรยาก และถ้ากลัวพลาดไม่อยากเจ็บเนื้อเจ็บตัวควรพยายามทำตัวนิ่งๆ ไว้ก่อน
