ท่าทางไม่สู้ดี
ตลาดหุ้นวันอังคาร แม้จะฟื้นตัวขึ้น ดัชนีบวกขึ้นมา 7.10 จุด ปิดที่ 1196.60 มูลค่าการซื้อขาย28,883 ล้านบาท แต่เป็นการฟื้นตัวบนรากฐานที่ไม่แน่น และมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ความร้อนแรงอาจจบสิ้นลง
สัญญาณที่บ่งชี้คือ มูลค่าการซื้อขายที่ลดฮวบลง จากระดับกว่า 40,000 ล้านบาทหลายวัน เหลือเพียงระดับ 28,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนเริ่มชะลอการตัดสินใจ ไม่แห่เข้ามาไล่ซื้อไล่ขายกันอย่างคึกคักเหมือนหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นเพราะระดับราคาหุ้นทะยานขึ้นมาต่อเนื่อง จนถึงจุดที่ร้อนแรงเกินไป และดัชนีที่ 1,200 จุด ก็เป็นเหมือนปราการที่ผ่านไปไม่ได้ง่าย เพราะชนทีไรก็ถอยหลัง
เมื่อดัชนีวิ่งใกล้ 1,200 จุดอีกครั้ง นักลงทุนจึงไม่กล้าตาม เนื่องจากลัวการปรับฐาน ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ แม้จะซื้อสุทธิอีกกว่า 1,300 ล้านบาท แต่ปริมาณการซื้อก็ลดน้อยลง โดยปัจจัยด้านราคาที่ขยับขึ้นมา อาจเป็นสาเหตุที่ต่างชาติไม่ลุยช้อนหุ้นก็ได้ และทุกคนก็รู้อยู่ว่าถ้าต่างชาติไม่อัดแรงซื้อเข้ามา ตลาดคงปิดรอบ ไม่สามารถขยับเดินหน้าได้
ปัจจัยลบที่โผล่ขึ้นมา คือ ตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งในช่วงเย็นติดลบกันถ้วนหน้ากว่า 1% และต้องรอดูตลาดหุ้นสหรัฐในค่ำคืนนี้ว่า จะถูกฉุดลงมาตามหรือไม่ ถ้าดาวโจนส์ทรุดตัวตามจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นย่านเอเชีย โดยอาจปรับฐานลงต่อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงตลาดหุ้นไทยที่เริ่มเปราะบาง และหมดข่าวดีสนับสนุนด้วย
สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่ขาย หรือเพิ่งกลับเข้าไปซื้อ คืนนี้คงไม่ได้นอนหลับฝันดี เพราะสถานการณ์แวดล้อมล่าสุด ไม่เป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ โดยปัจจัยภายนอก รอเข้ามากระทบ ปัจจัยภายในก็ขาดข่าวดี แถมตลาดหุ้นแสดงอาการไม่ดี และมีสัญญาณหมดแรงวิ่งอยู่ด้วย
โอกาสหุ้นปรับฐานมีสูง หุ้นตัวใหญ่ๆ อาจถึงเวลาพักก็ได้
ตลาดหุ้นวันอังคาร แม้จะฟื้นตัวขึ้น ดัชนีบวกขึ้นมา 7.10 จุด ปิดที่ 1196.60 มูลค่าการซื้อขาย28,883 ล้านบาท แต่เป็นการฟื้นตัวบนรากฐานที่ไม่แน่น และมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ความร้อนแรงอาจจบสิ้นลง
สัญญาณที่บ่งชี้คือ มูลค่าการซื้อขายที่ลดฮวบลง จากระดับกว่า 40,000 ล้านบาทหลายวัน เหลือเพียงระดับ 28,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนเริ่มชะลอการตัดสินใจ ไม่แห่เข้ามาไล่ซื้อไล่ขายกันอย่างคึกคักเหมือนหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นเพราะระดับราคาหุ้นทะยานขึ้นมาต่อเนื่อง จนถึงจุดที่ร้อนแรงเกินไป และดัชนีที่ 1,200 จุด ก็เป็นเหมือนปราการที่ผ่านไปไม่ได้ง่าย เพราะชนทีไรก็ถอยหลัง
เมื่อดัชนีวิ่งใกล้ 1,200 จุดอีกครั้ง นักลงทุนจึงไม่กล้าตาม เนื่องจากลัวการปรับฐาน ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ แม้จะซื้อสุทธิอีกกว่า 1,300 ล้านบาท แต่ปริมาณการซื้อก็ลดน้อยลง โดยปัจจัยด้านราคาที่ขยับขึ้นมา อาจเป็นสาเหตุที่ต่างชาติไม่ลุยช้อนหุ้นก็ได้ และทุกคนก็รู้อยู่ว่าถ้าต่างชาติไม่อัดแรงซื้อเข้ามา ตลาดคงปิดรอบ ไม่สามารถขยับเดินหน้าได้
ปัจจัยลบที่โผล่ขึ้นมา คือ ตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งในช่วงเย็นติดลบกันถ้วนหน้ากว่า 1% และต้องรอดูตลาดหุ้นสหรัฐในค่ำคืนนี้ว่า จะถูกฉุดลงมาตามหรือไม่ ถ้าดาวโจนส์ทรุดตัวตามจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นย่านเอเชีย โดยอาจปรับฐานลงต่อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงตลาดหุ้นไทยที่เริ่มเปราะบาง และหมดข่าวดีสนับสนุนด้วย
สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่ขาย หรือเพิ่งกลับเข้าไปซื้อ คืนนี้คงไม่ได้นอนหลับฝันดี เพราะสถานการณ์แวดล้อมล่าสุด ไม่เป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ โดยปัจจัยภายนอก รอเข้ามากระทบ ปัจจัยภายในก็ขาดข่าวดี แถมตลาดหุ้นแสดงอาการไม่ดี และมีสัญญาณหมดแรงวิ่งอยู่ด้วย
โอกาสหุ้นปรับฐานมีสูง หุ้นตัวใหญ่ๆ อาจถึงเวลาพักก็ได้