ก.ล.ต. รุกปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตการเสนอขายหุ้นของ holding company โดยลดสัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจจากเดิม75% เหลือ50%หวังเอื้อเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เหตุก่อนหน้านี้มีบริษัทในกลุ่มประเทศแถบอินโดจีนหลายรายสนใจเข้าระดมทุนในตลาดทุนไทย แต่ไม่สามารถทำได้จากติดเกณฑ์การถือหุ้น
สำนักงานคณะกรรมการกำบหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) รายงานว่า ก.ล.ต. อยู่ระหว่างปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตการออกและเสนอขายหุ้นต่อประชาชนของบริษัทที่จัดตั้งเพื่อถือหุ้นในบริษัทอื่น (“holding company”) ได้แก่ เพิ่มความยืดหยุ่นโดยปรับสัดส่วนการถือหุ้นของ holding company ในบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลัก จากไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 เป็นมากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด เพิ่มการคุ้มครองผู้ลงทุน
โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับโครงสร้างการลงทุนของ holding company เพื่อให้มั่นใจว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของ holding company อยู่ในธุรกิจหลักที่ holding company มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและมีอำนาจควบคุม รวมทั้งมีกลไกสามารถดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นของ holding company ได้
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ต้องการสนับสนุนให้ holding company ซึ่งมีศักยภาพสนใจที่จะใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งเงินทุนหลักและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ตลาดทุนไทยมีบริษัทจดทะเบียนที่น่าสนใจเพิ่มขึ้น และทำให้ธุรกิจสามารถระดมทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งสอดรับกับแผนพัฒนาตลาดทุนที่มีเป้าหมายจะเป็นศูนย์กลางการระดมทุนของประเทศในแถบภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทในกลุ่มประเทศดังกล่าวที่มีศักยภาพสนใจที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาดทุนไทยในรูปแบบ holding company ดังกล่าว
ที่ผ่านมาข้อกำหนดดังกล่าวเป็นอุปสรรคในทางปฏิบัติ เนื่องจาก โครงสร้างการถือหุ้นของผู้ขออนุญาตที่เป็นโฮดดิ้งคอมพานี หลายกรณีมักจะพึ่งพิงผู้ร่วมทุน รายอื่นในการดำเนินธุรกิจด้วยและผู้ร่วมทุนดังกล่าวก็จะถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่า 25%ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง ทำให้หลายบริษัทไม่สามารถดำเนินการเข้าจดทะเบียนได้ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีการถือหุ้นในบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักมากกว่า 50%แต่ไม่ถึง75%ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง
สำหรับข้อกำหนดเรื่องสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจหลักและธุรกิจอื่น เนื่องจาก โฮดดิ้งคอมพานีมีธุรกิจหลักคือการลงทุนในธุรกิจต่างๆไม่มีการประกอบธุรกิจอื่นอย่างมีนัยสำคัญเป็นของตนเอง ผลประกอบการของบริษัทดังกล่าวจึงขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทที่เป็นธุรกิจหลัก ดังนั้น ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของโฮดดิ้งคอมพานีจึงควรอยู่ในธุรกิจหลัก
นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้การลงทุนของบริษัทโฮดดิ้งคอมพานี กระจัดกระจายไปอยู่ในบริษัทอื่นๆที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ซึ่งโฮดดิ้งคอมพานีไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและมีอำนาจควบคุมและไม่สามารถดูแลผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอาจทำให้โฮดดิ้งคอมพานีกลายเป็นบริษัทลงทุน ควรต้องกำหนดสัดส่วนการลงทุนในส่วนนี้ด้วย
ขณะเดียวกันเกณฑ์ปัจจุบันที่กำหนดตัวชี้วัดขนาดธุรกิจหลักจากสัดส่วนเงินลงทุน อาจเป็นตัวชี้วัดที่ไม่เหมาะสมเพราะหากเป็นการลงทุนมานานแล้วเงินลงทุนจะถูกบันทึกบัญชีในราคาทุนทำให้ไม่สะท้อนขนาดบริษัทที่แท้จริงในปัจจุบันจึงเห็นควรปรับตัวชี้วัดกล่าวเป็นขนาดสินทรัพย์
ดังนั้น ก.ล.ต.จึงปรับปรุงเกณฑ์การกำหนดธุรกิจหลัก โฮดดิ้งคอมพานีเป็นผู้กำหนดธุรกิจหลักเองซึ่งอาจมากกว่า1 ประเภทโดยรวมธุรกิจที่สนับสนุนหรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้วยก็ได้ กลุ่มบริษัทที่เป็นธุรกิจหลักต้องประกอบด้วยบริษัทที่โฮดดิ้งคอมพานีถือหุ้นมากกว่า 25% และกำหนดขนาดบริษัทที่เป็นธุรกิจหลักและเงินลงทุนอื่นเมื่อเทียบขนาดของโฮดดิ้งคอมพานี คือ ขนาดสินทรัพย์ของกลุ่มบริษัทที่เป็นธุรกิจหลักไม่น้อยกว่า 75%ของสินทรัพย์รวมของโฮดดิ้งคอมพานี , ขนาดสินทรัพย์ของกลุ่มบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักไม่น้อยกว่า25%ของสินทรัพย์รวมโฮดดิ้งคอมพานี, กำหนดให้สัดส่วนเงินลงทุนในกลุ่มบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักน้อยกว่า25%ของสินทรัพย์รวมโฮดดิ้งคอมพานี ฯลฯ
นอกจากนี้ได้มีปรับเกณฑ์เรื่องการบริหารจัดการและควบคุมกิจการของบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลัก การรักษาสัดส่วนเงินลงทุนในบริษัทอื่น คุณสมบัติของบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักด้วย
สำนักงานคณะกรรมการกำบหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) รายงานว่า ก.ล.ต. อยู่ระหว่างปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตการออกและเสนอขายหุ้นต่อประชาชนของบริษัทที่จัดตั้งเพื่อถือหุ้นในบริษัทอื่น (“holding company”) ได้แก่ เพิ่มความยืดหยุ่นโดยปรับสัดส่วนการถือหุ้นของ holding company ในบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลัก จากไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 เป็นมากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด เพิ่มการคุ้มครองผู้ลงทุน
โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับโครงสร้างการลงทุนของ holding company เพื่อให้มั่นใจว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของ holding company อยู่ในธุรกิจหลักที่ holding company มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและมีอำนาจควบคุม รวมทั้งมีกลไกสามารถดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นของ holding company ได้
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ต้องการสนับสนุนให้ holding company ซึ่งมีศักยภาพสนใจที่จะใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งเงินทุนหลักและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ตลาดทุนไทยมีบริษัทจดทะเบียนที่น่าสนใจเพิ่มขึ้น และทำให้ธุรกิจสามารถระดมทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งสอดรับกับแผนพัฒนาตลาดทุนที่มีเป้าหมายจะเป็นศูนย์กลางการระดมทุนของประเทศในแถบภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทในกลุ่มประเทศดังกล่าวที่มีศักยภาพสนใจที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาดทุนไทยในรูปแบบ holding company ดังกล่าว
ที่ผ่านมาข้อกำหนดดังกล่าวเป็นอุปสรรคในทางปฏิบัติ เนื่องจาก โครงสร้างการถือหุ้นของผู้ขออนุญาตที่เป็นโฮดดิ้งคอมพานี หลายกรณีมักจะพึ่งพิงผู้ร่วมทุน รายอื่นในการดำเนินธุรกิจด้วยและผู้ร่วมทุนดังกล่าวก็จะถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่า 25%ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง ทำให้หลายบริษัทไม่สามารถดำเนินการเข้าจดทะเบียนได้ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีการถือหุ้นในบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักมากกว่า 50%แต่ไม่ถึง75%ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง
สำหรับข้อกำหนดเรื่องสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจหลักและธุรกิจอื่น เนื่องจาก โฮดดิ้งคอมพานีมีธุรกิจหลักคือการลงทุนในธุรกิจต่างๆไม่มีการประกอบธุรกิจอื่นอย่างมีนัยสำคัญเป็นของตนเอง ผลประกอบการของบริษัทดังกล่าวจึงขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทที่เป็นธุรกิจหลัก ดังนั้น ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของโฮดดิ้งคอมพานีจึงควรอยู่ในธุรกิจหลัก
นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้การลงทุนของบริษัทโฮดดิ้งคอมพานี กระจัดกระจายไปอยู่ในบริษัทอื่นๆที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ซึ่งโฮดดิ้งคอมพานีไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและมีอำนาจควบคุมและไม่สามารถดูแลผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอาจทำให้โฮดดิ้งคอมพานีกลายเป็นบริษัทลงทุน ควรต้องกำหนดสัดส่วนการลงทุนในส่วนนี้ด้วย
ขณะเดียวกันเกณฑ์ปัจจุบันที่กำหนดตัวชี้วัดขนาดธุรกิจหลักจากสัดส่วนเงินลงทุน อาจเป็นตัวชี้วัดที่ไม่เหมาะสมเพราะหากเป็นการลงทุนมานานแล้วเงินลงทุนจะถูกบันทึกบัญชีในราคาทุนทำให้ไม่สะท้อนขนาดบริษัทที่แท้จริงในปัจจุบันจึงเห็นควรปรับตัวชี้วัดกล่าวเป็นขนาดสินทรัพย์
ดังนั้น ก.ล.ต.จึงปรับปรุงเกณฑ์การกำหนดธุรกิจหลัก โฮดดิ้งคอมพานีเป็นผู้กำหนดธุรกิจหลักเองซึ่งอาจมากกว่า1 ประเภทโดยรวมธุรกิจที่สนับสนุนหรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้วยก็ได้ กลุ่มบริษัทที่เป็นธุรกิจหลักต้องประกอบด้วยบริษัทที่โฮดดิ้งคอมพานีถือหุ้นมากกว่า 25% และกำหนดขนาดบริษัทที่เป็นธุรกิจหลักและเงินลงทุนอื่นเมื่อเทียบขนาดของโฮดดิ้งคอมพานี คือ ขนาดสินทรัพย์ของกลุ่มบริษัทที่เป็นธุรกิจหลักไม่น้อยกว่า 75%ของสินทรัพย์รวมของโฮดดิ้งคอมพานี , ขนาดสินทรัพย์ของกลุ่มบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักไม่น้อยกว่า25%ของสินทรัพย์รวมโฮดดิ้งคอมพานี, กำหนดให้สัดส่วนเงินลงทุนในกลุ่มบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักน้อยกว่า25%ของสินทรัพย์รวมโฮดดิ้งคอมพานี ฯลฯ
นอกจากนี้ได้มีปรับเกณฑ์เรื่องการบริหารจัดการและควบคุมกิจการของบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลัก การรักษาสัดส่วนเงินลงทุนในบริษัทอื่น คุณสมบัติของบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักด้วย