“อเมริกัน พรีเชียส เมทัลส์ฯ” คาดทองลงแค่ปัจจัยทางเทคนิค ชี้ช่วง 2-3 ปีข้างหน้าราคาจะทะลุ 2,000 - 5,000 เหรียญ เนื่องจาก การที่ธนาคารกลางยุโรป และสหรัฐฯ ดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายและมีการตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป 2-3ปี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าดันราคาทองคำปรับตัวเพิ่ม
นายเจฟฟรี่ นิโคลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อเมริกัน พรีเชียส เมทัลส์ แอดไวเซอร์สจำกัด และผู้เชี่ยวชาญทางด้านทองคำ กล่าวว่า ทิศทางราคาทองคำในช่วงระยะสั้นคาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ1,522 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,660 เหรียญต่อออนซ์ เนื่องจากเป็นปัจจัยทางเทคนิค แต่ในระยะยาวราคาทองคำอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าราคาทองจะทะลุ 2,000 - 5,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจาก การที่ธนาคารกลางยุโรป และสหรัฐอเมริกามีการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายและมีการตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป 2-3ปี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำให้ราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆมีการสะสมทองคำเป็นทุนสำรองมากขึ้น ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเห็นธนาคารกลางยุโรปของประเทศต่างๆมีการกลับมาซื้อสุทธิหลังจากก่อนหน้าที่มีการขายสุทธิออกมา เช่น จีน อินเดีย และรัสเซีย และจากที่มีการซื้อขายทองคำในตลาดอนุพันธ์ นั้นมีผลทำให้ราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
“อีก 2-3 ปีข้างหน้าจะเห็นราคาทองคำทะลุ 2 พันเหรียญสหรัฐต่อออนซ์และค่อยๆข้นเป็น 3 พันหรียญสหรัฐต่อออนซ์ 4 พันเหรียญต่อออนซ์และมาอยู่ที่ 5 พันเหรียญสหรัฐต่อออนซ์ได้ จาที่ธนาคารกลางต่างๆมีการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย และตึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและธนาคารกลางประเทศต่างๆมีการเก็บทองคำเป็นทุนสำรองของประเทศมากขึ้น”นายเจฟฟรี กล่าว
นายเจฟฟรี่ นิโคลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อเมริกัน พรีเชียส เมทัลส์ แอดไวเซอร์สจำกัด และผู้เชี่ยวชาญทางด้านทองคำ กล่าวว่า ทิศทางราคาทองคำในช่วงระยะสั้นคาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ1,522 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,660 เหรียญต่อออนซ์ เนื่องจากเป็นปัจจัยทางเทคนิค แต่ในระยะยาวราคาทองคำอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าราคาทองจะทะลุ 2,000 - 5,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจาก การที่ธนาคารกลางยุโรป และสหรัฐอเมริกามีการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายและมีการตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป 2-3ปี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำให้ราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆมีการสะสมทองคำเป็นทุนสำรองมากขึ้น ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเห็นธนาคารกลางยุโรปของประเทศต่างๆมีการกลับมาซื้อสุทธิหลังจากก่อนหน้าที่มีการขายสุทธิออกมา เช่น จีน อินเดีย และรัสเซีย และจากที่มีการซื้อขายทองคำในตลาดอนุพันธ์ นั้นมีผลทำให้ราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
“อีก 2-3 ปีข้างหน้าจะเห็นราคาทองคำทะลุ 2 พันเหรียญสหรัฐต่อออนซ์และค่อยๆข้นเป็น 3 พันหรียญสหรัฐต่อออนซ์ 4 พันเหรียญต่อออนซ์และมาอยู่ที่ 5 พันเหรียญสหรัฐต่อออนซ์ได้ จาที่ธนาคารกลางต่างๆมีการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย และตึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและธนาคารกลางประเทศต่างๆมีการเก็บทองคำเป็นทุนสำรองของประเทศมากขึ้น”นายเจฟฟรี กล่าว