วันนี้ต้องฟื้นไข้
ใจหายใจคว่ำกันไปแล้ว สำหรับตลาดหุ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งดัชนีทรุดฮวบลง โดยไม่มีสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า นักลงทุนต้องเทขายหนีตาย หลังจากเปิดในภาคบ่าย ตลาดหุ้นยุโรปร่วงกันกราวรูดประมาณ 1% และดูจะเป็นปัจจัยร้ายชิ้นสำคัญที่นำไปสู่ความพลิกผัน
ดัชนีฯ สร้างจุดสูงสุดใหม่อยู่หลายวัน ผ่านทะลุ 1,200 จุดไปฉลุย และทำให้เกิดการปรับมุมมองใหม่ โดยคาดกันว่าหุ้นจะวิ่งต่อไปได้อีกระยะ แต่ความฝันต้องพังทลาย ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และส่งท้ายสัปดาห์วันนี้ก็มีความสำคัญยิ่ง เพราะหากตลาดทรุดตัวลงอีก แรงโน้มถ่วงก็อาจเปลี่ยนไป ความมั่นใจที่เคยมีจะเสื่อมถอย ซึ่งอาจทำให้ตลาดที่กำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เปลี่ยนเป็นขาลง
แต่หากตลาดดีกลับขึ้นมา อารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนจะดีขึ้น และการดิ่งลงของหุ้นเมื่อวานนี้ ก็อาจเป็นเพียงการปรับฐานช่วงสั้นๆ เพียงวันเดียว
ประเมินจากปัจจัยแวดล้อมช่วงเช้าวันนี้แล้ว แม้ไม่มีข่าวดี แต่ก็ไม่มีข่าวที่เลวร้ายไปกว่าช่วงบ่ายวานนี้ โดยตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเฉลี่ยประมาณ 1% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ติดลบไป 78 จุด ราคาน้ำมันลดลงมาปิดที่ 105 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ดังนั้นจึงไม่มีปัจจัยลบใหม่ที่จะกระชากความเชื่อมั่น ขณะที่ยังมีปัจจัยบวกเล็กๆ ที่ยังช่วยให้นักลงทุนมองโลกในแง่ดีอยู่ เนื่องจากต่างชาติ ยังไม่ได้ทิ้งหุ้น และมียอดซื้อสุทธิต่อเนื่อง เมื่อวานซื้อกว่า 1,300 ล้านบาท
ตัวแปรของตลาดหุ้นวันนี้ อยู่ที่อารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนล้วนๆ หายตื่นตระหนกกับอาการปักหัวลงของหุ้นหรือยัง ขวัญที่กระเจิดกระเจิงกลับมาหรือยัง ยังหวั่นไหวกับภาวะขาลงอยู่หรือเปล่า ถ้าตั้งสติได้ ไม่แห่ขายหนีตาย ตลาดหุ้นวันนี้ก็อาจกลับมาตั้งหลักใหม่ได้ และถ้ากระเตื้องขึ้น แรงโน้มถ่วงของตลาดก็จะไม่เสียหาย เพราะการปรับฐานจะเป็นเพียงปรากฏการณ์เกิดขึ้นเพียงวันนี้
วันนี้ ตลาดหุ้นต้องฟื้น เพราะถ้าไม่ฟื้นจะยุ่ง ไม่ฟื้นจะส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุน และทำให้มุมมองต่อแนวโน้มระยะสั้นเปลี่ยนไป รอบขาขึ้นอาจต้องปิดฉากลงชั่วคราว
ใจหายใจคว่ำกันไปแล้ว สำหรับตลาดหุ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งดัชนีทรุดฮวบลง โดยไม่มีสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า นักลงทุนต้องเทขายหนีตาย หลังจากเปิดในภาคบ่าย ตลาดหุ้นยุโรปร่วงกันกราวรูดประมาณ 1% และดูจะเป็นปัจจัยร้ายชิ้นสำคัญที่นำไปสู่ความพลิกผัน
ดัชนีฯ สร้างจุดสูงสุดใหม่อยู่หลายวัน ผ่านทะลุ 1,200 จุดไปฉลุย และทำให้เกิดการปรับมุมมองใหม่ โดยคาดกันว่าหุ้นจะวิ่งต่อไปได้อีกระยะ แต่ความฝันต้องพังทลาย ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และส่งท้ายสัปดาห์วันนี้ก็มีความสำคัญยิ่ง เพราะหากตลาดทรุดตัวลงอีก แรงโน้มถ่วงก็อาจเปลี่ยนไป ความมั่นใจที่เคยมีจะเสื่อมถอย ซึ่งอาจทำให้ตลาดที่กำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เปลี่ยนเป็นขาลง
แต่หากตลาดดีกลับขึ้นมา อารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนจะดีขึ้น และการดิ่งลงของหุ้นเมื่อวานนี้ ก็อาจเป็นเพียงการปรับฐานช่วงสั้นๆ เพียงวันเดียว
ประเมินจากปัจจัยแวดล้อมช่วงเช้าวันนี้แล้ว แม้ไม่มีข่าวดี แต่ก็ไม่มีข่าวที่เลวร้ายไปกว่าช่วงบ่ายวานนี้ โดยตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเฉลี่ยประมาณ 1% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ติดลบไป 78 จุด ราคาน้ำมันลดลงมาปิดที่ 105 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ดังนั้นจึงไม่มีปัจจัยลบใหม่ที่จะกระชากความเชื่อมั่น ขณะที่ยังมีปัจจัยบวกเล็กๆ ที่ยังช่วยให้นักลงทุนมองโลกในแง่ดีอยู่ เนื่องจากต่างชาติ ยังไม่ได้ทิ้งหุ้น และมียอดซื้อสุทธิต่อเนื่อง เมื่อวานซื้อกว่า 1,300 ล้านบาท
ตัวแปรของตลาดหุ้นวันนี้ อยู่ที่อารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนล้วนๆ หายตื่นตระหนกกับอาการปักหัวลงของหุ้นหรือยัง ขวัญที่กระเจิดกระเจิงกลับมาหรือยัง ยังหวั่นไหวกับภาวะขาลงอยู่หรือเปล่า ถ้าตั้งสติได้ ไม่แห่ขายหนีตาย ตลาดหุ้นวันนี้ก็อาจกลับมาตั้งหลักใหม่ได้ และถ้ากระเตื้องขึ้น แรงโน้มถ่วงของตลาดก็จะไม่เสียหาย เพราะการปรับฐานจะเป็นเพียงปรากฏการณ์เกิดขึ้นเพียงวันนี้
วันนี้ ตลาดหุ้นต้องฟื้น เพราะถ้าไม่ฟื้นจะยุ่ง ไม่ฟื้นจะส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุน และทำให้มุมมองต่อแนวโน้มระยะสั้นเปลี่ยนไป รอบขาขึ้นอาจต้องปิดฉากลงชั่วคราว
