"สมภพ" แจงภาพรวม ศก.ไทย มีลักษณะแบบ เยี่ยมๆ แย่ๆ ไม่มีโอกาสโตได้แบบต่อเนื่อง "ณรงค์ชัย" สวดรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" แก้ปัญหาเศรษฐกิจผิดทาง คุมราคาข้าวแกง ไม่มีประเทศไหนทำกัน อัดซ้ำจำนำข้าวล้มเหลว สร้างภาระหนี้ แนะเลิกประชานิยม บ้านหลังแรก-รถคันแรก "ก้องเกียรติ" ชี้ช่วง 4 ปี จีดีพีโตเฉลี่ย 0%
นายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทย ในการสัมมนาเรื่อง "ยอดเยี่ยม หรือยอดแย่ วิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทย" โดยมองว่า เศรษกิจในตอนนี้ มีลักษณะแบบเยี่ยมๆ แย่ๆ โดยหมายถึง ปีนี้เศรษฐกิจดี แต่ปีหน้ากลับแย่ลง ไม่มีปีไหนที่ขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งลักษณะดังกล่าว ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศต่ำกว่าศักยภาพที่เป็นจริง
สำหรับปัจจัยที่เป็นตัวแปรเศรษฐกิจที่มีน้ำหนักสุดในขณะนี้ ได้แก่ ภาวะหนี้ยุโรป ซึ่งเชื่อว่าจะยืดเยื้อไปอย่างต่อเนื่อง กรณีเศรษฐกิจสหรัฐฯ กรณีความขัดแย้งในประเทศแถบตะวันออกกลาง และกรณีเศรษฐกิจจีนที่ 2 เดือนแรกการค้าต่างประเทศมีการขยายตัวเพียง 7% เท่านั้น จากปกติที่จะขยายตัว 2 หลักมาโดยตลอด
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดคือ ต้องมีการปฏิรูประบบการเงิน ระบบโลจิสติกส์ ระบบพลังงาน ระบบกฎหมาย นโยบายการทำงานของรัฐบาล และปฏิรูประบบข้าราชการและการเมือง
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) มองว่า ปัญหาสำคัญในตอนนี้ คือ รัฐบาลกำลังบริหารงานอยู่ในภาวะการบริหารจัดการที่ไม่แน่นอน โดยปี 2551 เศรษฐกิจขยายตัว 2.5% ปี 2552 เศรษฐกิจติดลบ 2.3% ปี 2553 เศรษฐกิจขยายตัว 7.8% และปี 2554 เศรษฐกิจขยายตัว 0.1% เท่ากับว่าตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศโตเฉลี่ย 0% เท่านั้น
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ปัญหาเศรษฐกิจภาคครัวเรือนที่ประชาชนต้องเจอในขณะนี้ คือของกินของใช้แพง ค่าจ้างค่าแรงถูก ของที่ปลูกไม่ได้ราคา ซึ่งปัญหาดังกล่าวแก้ไขค่อนข้างลำบาก
"รัฐบาลปัจจุบันเลือกที่แก้ปัญหาของแพง โดยการคุมราคาสินค้า ควบคุมราคาข้าวแกง ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลออกมาควบคุมราคาข้าวแกง ในความเป็นจริงแล้วรัฐบาลควรเข้าไปควบคุมตั้งแต่ต้นทางของสินค้าแต่ละชนิดมากกว่าการเลือกคุมปลายทาง"
ส่วนนโยบายการรับจำนำ นายณรงค์ชัย มองว่าไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะการรับจำนำข้าวถือเป็นการสร้างภาระให้กับรัฐบาล และเป็นนโยบายที่ไม่ได้ผล ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลไหนเดินหน้าโครงการนี้ ก็มีแต่ภาระหนี้เท่านั้น
"มาตรการที่รัฐบาลออกมาควบคุมสินค้าแพง ไม่มีใครออกมายืนยันได้หรอกว่ามันได้ผลจริงหรือไม่ ราคาข้าวแกง 20 บาท ใครซื้อได้ในราคานี้บ้าง ของแพงมันมาจากราคาวัตถุดิบที่แพง มาเลือกควบคุมตรงปลายทาง ผู้ค้าที่ไหนจะไปทำได้ กระทรวงพาณิชย์น่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ ไม่รู้เพราะว่าทำไม่ได้ หรือไม่อยากทำก็ไม่ทราบ"
ส่วนการรับจำนำข้าวก็มีแต่ปัญหา แต่รัฐบาลก็ยังทำอยู่ ซึ่งเห็นว่าพวกนโยบายประชานิยมที่ควรเพลาๆ ลงหน่อย พวกที่ได้ผลอย่าง 30 บาท รักษาทุกโรค ก็ควรมีต่อไป แต่พวกนโยบายบ้านหลังแรก รถหลังแรก มันไม่ใช่สิ่งจำเป็น ไม่ต้องมีก็ได้
นายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทย ในการสัมมนาเรื่อง "ยอดเยี่ยม หรือยอดแย่ วิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทย" โดยมองว่า เศรษกิจในตอนนี้ มีลักษณะแบบเยี่ยมๆ แย่ๆ โดยหมายถึง ปีนี้เศรษฐกิจดี แต่ปีหน้ากลับแย่ลง ไม่มีปีไหนที่ขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งลักษณะดังกล่าว ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศต่ำกว่าศักยภาพที่เป็นจริง
สำหรับปัจจัยที่เป็นตัวแปรเศรษฐกิจที่มีน้ำหนักสุดในขณะนี้ ได้แก่ ภาวะหนี้ยุโรป ซึ่งเชื่อว่าจะยืดเยื้อไปอย่างต่อเนื่อง กรณีเศรษฐกิจสหรัฐฯ กรณีความขัดแย้งในประเทศแถบตะวันออกกลาง และกรณีเศรษฐกิจจีนที่ 2 เดือนแรกการค้าต่างประเทศมีการขยายตัวเพียง 7% เท่านั้น จากปกติที่จะขยายตัว 2 หลักมาโดยตลอด
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดคือ ต้องมีการปฏิรูประบบการเงิน ระบบโลจิสติกส์ ระบบพลังงาน ระบบกฎหมาย นโยบายการทำงานของรัฐบาล และปฏิรูประบบข้าราชการและการเมือง
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) มองว่า ปัญหาสำคัญในตอนนี้ คือ รัฐบาลกำลังบริหารงานอยู่ในภาวะการบริหารจัดการที่ไม่แน่นอน โดยปี 2551 เศรษฐกิจขยายตัว 2.5% ปี 2552 เศรษฐกิจติดลบ 2.3% ปี 2553 เศรษฐกิจขยายตัว 7.8% และปี 2554 เศรษฐกิจขยายตัว 0.1% เท่ากับว่าตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศโตเฉลี่ย 0% เท่านั้น
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ปัญหาเศรษฐกิจภาคครัวเรือนที่ประชาชนต้องเจอในขณะนี้ คือของกินของใช้แพง ค่าจ้างค่าแรงถูก ของที่ปลูกไม่ได้ราคา ซึ่งปัญหาดังกล่าวแก้ไขค่อนข้างลำบาก
"รัฐบาลปัจจุบันเลือกที่แก้ปัญหาของแพง โดยการคุมราคาสินค้า ควบคุมราคาข้าวแกง ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลออกมาควบคุมราคาข้าวแกง ในความเป็นจริงแล้วรัฐบาลควรเข้าไปควบคุมตั้งแต่ต้นทางของสินค้าแต่ละชนิดมากกว่าการเลือกคุมปลายทาง"
ส่วนนโยบายการรับจำนำ นายณรงค์ชัย มองว่าไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะการรับจำนำข้าวถือเป็นการสร้างภาระให้กับรัฐบาล และเป็นนโยบายที่ไม่ได้ผล ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลไหนเดินหน้าโครงการนี้ ก็มีแต่ภาระหนี้เท่านั้น
"มาตรการที่รัฐบาลออกมาควบคุมสินค้าแพง ไม่มีใครออกมายืนยันได้หรอกว่ามันได้ผลจริงหรือไม่ ราคาข้าวแกง 20 บาท ใครซื้อได้ในราคานี้บ้าง ของแพงมันมาจากราคาวัตถุดิบที่แพง มาเลือกควบคุมตรงปลายทาง ผู้ค้าที่ไหนจะไปทำได้ กระทรวงพาณิชย์น่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ ไม่รู้เพราะว่าทำไม่ได้ หรือไม่อยากทำก็ไม่ทราบ"
ส่วนการรับจำนำข้าวก็มีแต่ปัญหา แต่รัฐบาลก็ยังทำอยู่ ซึ่งเห็นว่าพวกนโยบายประชานิยมที่ควรเพลาๆ ลงหน่อย พวกที่ได้ผลอย่าง 30 บาท รักษาทุกโรค ก็ควรมีต่อไป แต่พวกนโยบายบ้านหลังแรก รถหลังแรก มันไม่ใช่สิ่งจำเป็น ไม่ต้องมีก็ได้
