xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนผวา ศก.จีนหดตัว-ราคาน้ำมันพุ่ง กดดัชนีหุ้นไทยปิดลบ8จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักลงทุนผวาเศรษฐกิจจีนชะลอตัว บวกกับราคาน้ำมันพุ่งที่อาจจะฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจโลก กดดัชนีตลาดหุ้นไทยรูดต่ำกว่า 10 จุด ก่อนจะกระเตื้องและปิดตลาดที่ 1,150.18 จุด ลดลง 8.53 จุด มูลค่าการซื้อขายรวม 30,526.37 ล้านบาท นักวิเคราะห์แนะจับตาผลการประชุมเฟดวันนี้

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (12 มี.ค.) เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยในช่วงเช้าดัชนีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า และแตะระดับสูงสุดที่ 1,165.26 จุด หลังจากนั้นได้มีแรงเทขายออกมาในช่วงบ่าย เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน กดดันให้ดัชนีลดลงค่อนข้างแรงสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาค จนแตะระดับต่ำสุดที่ 1,146.51 จุด และปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,150.18 จุด ลดลง 8.53 จุด หรือคิดเป็น 0.74% มูลค่าการซื้อขายรวม 30,526.37 ล้านบาท

ทั้งนี้นักลงทุนต่างประเทศยังคงมียอดซื้อสุทธิ 458.62 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,593.85 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,028.39 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,163.62 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ TRUE บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE)ราคาปิด 3.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 2.19% มูลค่าการซื้อขายรวม 1,906.30 ล้านบาท บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ราคาปิด 38.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.65% มูลค่าการซื้อขาย 1,607.84 ล้านบาท และบมจ. บ้านปู (BANPU) ราคาปิด 614 บาท ลดลง 8 บาท หรือ 1.29% มูลค่าการซื้อขาย 1,560.45 ล้านบาท

ด้านตลาดหุ้นภูมิภาค มีการเคลื่อนไหวสอดคล้องกับตลาดหุ้นไทย ส่วนใหญ่ปิดตลาดติดลบ โดยดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ 21,134.18 จุด เพิ่มขึ้น 48.18 จุด ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดตลาดที่ระดับ 9,889.86 จุด ลดลง 39.88 จุด และดัชนีเวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดตลาดที่ระดับ 7,927.55 จุด ลดลง 88.46 จุด

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวค่อนข้างผันผวนในแดนบวกสลับแดนลบ โดยช่วงเปิดตลาดช่วงเช้าดัชนีปรับตัวในแดนบวก จากแรงซื้อที่มีเข้ามาต่อเนื่อง แต่ในช่วงบ่ายตลาดหุ้นกลับปรับตัวลดลง สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคจากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่าน ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูง และอาจเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายดุลการค้าในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 จีนมียอดขาดดุลการค้ากว่า 3.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

“ขณะนี้ตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น ประกอบกับเศรษฐกิจในสหรัฐฯ เริ่มมีทิศทางจะปรับตัวดีขึ้น และที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงทำให้มีแรงเทขายทำกำไรเกิดขึ้น”

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 มี.ค.) คาดว่าตลาดหุ้นคงไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน โดยประเมินตลาดหุ้นไทยจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,140 จุด และแนวต้านที่ระดับ1,160 จุด พร้อมทั้งแนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีรายได้มาจากในประเทศเป็นหลัก เช่น กลุ่มอาหาร สื่อสาร และโรงพยาบาล เป็นต้น

“ปัจจัยต่างประเทศที่นักลงทุนต้องจับตาดูว่าจะส่งผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย คือ การประชุมธนาคารสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้ ที่จะมีการประกาศถึงแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ด้วย”
กำลังโหลดความคิดเห็น