บลจ.กสิกรไทย โชว์ผลงานกองหุ้น"K-EQUITY"สุดแจ่ม 2 ทศวรรษทำกำไรเกือบ 500% แถมตั้งแต่ต้นปีให้ยิลด์อีก 15.3% ชูจุดเด่นลงทุนหุ้นพื้นฐานดีช่วยฝ่ามรสุมเศรษฐกิจและความผันผวนได้ เชื่อเหมาะกับนักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูง พร้อมระบุหุ้นไทยปีนี้รับอานิสงส์เงินไหลเข้าดันดัชนีแตะ 1,300 จุดปลายปี
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า กองทุน K-EQUITY เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้สูง และต้องการจัดสรรเงินลงทุนเข้ามาอยู่ในกองทุนหุ้นเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะยาว พร้อมโอกาสได้รับเงินปันผลระหว่างทาง ขณะเดียวกันผู้ลงทุนที่ติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอยู่อย่างสม่ำเสมอ ยังสามารถเลือกจับจังหวะในการซื้อ-ขายเพื่อสร้างโอกาสกำไรระยะสั้นจากตลาดหุ้นไทยที่เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชัดเจนได้ด้วย
"ตั้งแต่ต้นปีตลาดให้ผลตอบแทนที่ประมาณ 13% ขณะที่กองทุน K-EQUITY ให้ผลตอบแทนถึง 15.33% เชื่อว่าหุ้นในพอร์ตของกองทุน K-EQUITY ที่เราให้น้ำหนักในการลงทุนสูง อย่างหุ้นกลุ่มธนาคาร พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม จะสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจให้ผู้ลงทุนต่อไป"
นอกจากนี้ สำหรับกองทุนดังกล่าว ยังเป็นกองทุนรวมกองทุนแรกของบริษัทยังคงมีผลการดำเนินงานที่น่าพึงพอใจนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2535 โดย ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ 495.28% สูงกว่าผลตอบแทนจากตลาดหลักทรัพย์ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 68.89%
โดยกองทุนี้ถือความภาคภูมิใจในฐานะทางเลือกในการลงทุนที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ผู้ลงทุนมาตลอดระยะเวลาร่วม 2 ทศวรรษ เนื่องจากกองทุนนี้เผชิญสภาวะผันผวนของตลาดหุ้นไทย ท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจทั้งในประเทศและวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกมาอย่างโชกโชน แต่ด้วยจุดเด่นของกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่ผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างเข้มข้น ประกอบกับการใช้กลยุทธ์ในการบริหารกองทุนแบบ active approach ทำให้กองทุนนี้ยังคงรักษาผลการดำเนินงานที่น่าพอใจได้อย่างต่อเนื่อง
เห็นได้ชัดจากผลการดำเนินงานย้อนหลังโดยรวมทั้งระยะยาวและระยะสั้นสามารถเอาชนะผลตอบแทนจาก SET Index ทั้งยังสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ลงทุนได้ค่อนข้างต่อเนื่อง โดยอัตราผลตอบเฉลี่ยต่อปีตั้งแต่จัดตั้ง (Total Return) ของกองทุนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 9.46% ต่อปี ขณะที่ผลตอบแทนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่เพียง 2.69% เท่านั้น
สำหรับกองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY) เป็นกองทุนรวมตราสารทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ พร้อมนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง โดยจะพิจารณาการจ่ายปันผลในเดือนมิถุนายนและธันวาคมของทุกปี นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในเดือนมิถุนายน 2535 มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 14 ครั้ง อัตราการจ่ายปันผลรวม 20.93 บาทต่อหน่วย ณ วันที่ 14 มีนาคม 2555 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,089.05 ล้านบาท
คาดหุ้นไทยแตะ1,300จุด
นางสาวยุพาวดี กล่าวอีกว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยดัชนี SET Index ปลายปีน่าจะอยู่ที่ 1,250 - 1,300 จุด จากปัจจัยบวกหลายประการที่เอื้อต่อการเติบโตของตลาด ทั้งเม็ดเงินต่างชาติที่จะยังคงไหลเข้ามาต่อเนื่องจากการอัตราดอกเบี้ยต่ำในสหรัฐฯ และธนาคารกลางยุโรปปล่อยกู้ระยะยาวเสริมสภาพคล่อง (LTRF) ซึ่งจะทำให้ตลาดมีสภาพคล่องคงเหลือค่อนข้างมาก รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมามีแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยอัตราการว่างงานลดลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี ยอดค้าปลีกเริ่มสะท้อนความมั่นใจของผู้บริโภคมากขึ้น
ขณะเดียวกันตัวเลขผลการทดสอบภาวะวิกฤตของธนาคารสหรัฐฯ (Stress Test) ที่ออกมาล่าสุดยังแสดงให้เห็นถึงฐานะเงินทุนของธนาคารสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาแล้วพอสมควรจึงมีแนวโน้มที่จะปรับฐานได้ โดยนักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการขายสุทธิเพื่อทำกำไรระยะสั้นไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงตลาดขาลงแต่อย่างใด