ไม่ร้ายอย่างที่กลัว
ตลาดหุ้นวันพุธปิดทำการ 1 วัน เนื่องในวันพระใหญ่ วันมาฆบูชา ซึ่งถือเป็นโชคช่วยของนักลงทุน เพราะหากเปิดซื้อขาย มีหวังระเนระนาด ดัชนีหุ้นมีสิทธิทรุดลงระดับตัวเลข 2 หลัก หลุดระดับ1150 ขุด ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญแน่นอน เนื่องจากปัจจัยภายนอกเลวร้าย ตลาดหุ้นทั่วโลกแดงฉาน
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันอังคารรูดลง 201 จุด ตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลงเหว ตลาดหุ้นย่านเอเชียฟุบต่อเนื่องเป็นแถว ราคาทองคำร่วงผลอยกว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนส์ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงหลายดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ปัจจัยลบหนักเช่นนี้ ตลาดหุ้นไทยต้านไม่ไหวแน่
แต่สถานการณ์ตลาดหุ้นวันพุธกระเตื้องขึ้นแล้ว หุ้นยุโรปบวกกันถ้วนหน้า ระดับครึ่งค่อนเปอร์เซนต์ ดาวโจนส์ฟื้นขึ้นมา 78 จุด ราคาทองคำโงหัวขึ้นมาที่ระดับ1,685 ดอลลาร์ต่อออนส์ ขณะที่ราคาน้ำมันขยับขึ้นที่ระดับ 106 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ส่วนตลาดหุ้นย่านเอเชียวันนี้ คงลืมต้าอ้าปากได้บ้าง หลังจากมุดลงมาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนวันนี้ คงไม่คึกคักมากนัก เพราะไม่มีปัจจัยในเชิงบวกกระตุ้น และความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงวันหยุด ยังมีผลกระทบเชิงจิตวิทยาอยู่ หรืออาจฉุดให้หุ้นปรับตัวลง ชดเชยวันที่ปิดทำการได้ นอกจากนั้น แรงหนุนจากต่างชาติ เริ่มแสดงความอ่อนล้า เพราะเมื่อวันอังคาร ยอดซื้อสุทธิของต่างชาติเหลือเพียง 500 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นยอดซื้อสุทธิที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับการซื้อในรอบหลายสัปดาห์
ประเมินจากปัจจัยแวดล้อมแล้ว ไม่มีข่าวดีชิ้นใหม่เข้ามาเสริม มีแต่ความแปรปรวนของปัจจัยภายนอก โดยความกังวลวิกฤตการณ์หนี้ของยุโรปยังไม่หมดไป ส่วนปัจจัยภายใน ไม่มีอะไรที่เป็นบวก และช่วงปลายสัปดาห์นี้ จะมีความเคลื่อนไหวต่อต้านแก้รัฐธรรมนูญของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้สถานการณ์การเมืองร้อนขึ้น ซึ่งแม้นักลงทุนยังไม่ให้น้ำหนักต่อสถานการณ์ทางการเมืองมากนัก แต่ต้องให้ความสำคัญต่อปัจจัยการเมืองไว้บ้าง โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอาจนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงได้
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ควรจะเน้นการปักหลักรอคอย แม้หุ้นจะอ่อนตัวลงมา ก็ไม่ควรรีบร้อนเข้าไปช้อนเก็บ เพราะไม่มีสัญญาณการดีดตัวกลับ ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า ตลาดจะกลับสู่ความร้อนแรง และท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน ประคับประคองตัวได้ ดัชนีติดลบเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเก่งแล้ว
สิ่งที่ต้องจับตาใกล้ชิดคือ นักลงทุนต่างชาติ หมดแรงซื้อหรือยัง ถ้าหมดแรงซื้อ และเริ่มเทขาย ต้องชิงทิ้งหุ้นหนีตามฝรั่งให้ทัน อย่าซื้อสวน
ส่วนสิ่งที่ต้องระวังคือ หุ้นที่กำลังเปิดกลยุทธ์ล่อแมลงเม่า โดยสร้างข่าวมายั่วกิเลศนักเก็งกำไร ไม่ว่าการเพิ่มทุน การแจกวอแร้นท์ หรือสร้างประเด็นเชิงบวกอื่นๆ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับหุ้นตัวเล็กๆ จะตามแห่เก็งกำไรตามข่าวอะไร ต้องยับยั้งชั่งใจให้ดี
หลักลงทุนโดยรวมแล้ว ช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูง ควรเน้นการลดน้ำหนัก ไม่ใช่เพิ่มน้ำหนักการลงทุน มีกำไรก็ทยอยปล่อยของออกมาบ้าง
เพราะจุดสูงสุดของหุ้นในรอบนี้ น่าจะผ่านพ้นไปแล้วที่ดัชนี1173 จุด
หมายเหตุ... คอลัมน์เกาะติดชีพจรหุ้น จะมีรายงานวันละ 3 เวลา โดยก่อนเปิดตลาดช่วงเช้า ระหว่างเวลาประมาณ 9.00น.-9.30 น. หลังปิดตลาดภาคเช้า รายงานเวลาประมาณ 13.00น. และหลังปิดตลาดภาคบ่าย เวลาประมาณ18.00น.
ส่วนคอลัมน์พูดจาประสาคน(อยาก)รวยหุ้น เป็นการสอบถามปัญหาหุ้นโดยทั่วไป โดยจะพยายามตอบคำถามให้เร็วที่สุด มีคำถามอะไร ตั้งไว้ในคอลัมน์ได้
ตลาดหุ้นวันพุธปิดทำการ 1 วัน เนื่องในวันพระใหญ่ วันมาฆบูชา ซึ่งถือเป็นโชคช่วยของนักลงทุน เพราะหากเปิดซื้อขาย มีหวังระเนระนาด ดัชนีหุ้นมีสิทธิทรุดลงระดับตัวเลข 2 หลัก หลุดระดับ1150 ขุด ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญแน่นอน เนื่องจากปัจจัยภายนอกเลวร้าย ตลาดหุ้นทั่วโลกแดงฉาน
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันอังคารรูดลง 201 จุด ตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลงเหว ตลาดหุ้นย่านเอเชียฟุบต่อเนื่องเป็นแถว ราคาทองคำร่วงผลอยกว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนส์ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงหลายดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ปัจจัยลบหนักเช่นนี้ ตลาดหุ้นไทยต้านไม่ไหวแน่
แต่สถานการณ์ตลาดหุ้นวันพุธกระเตื้องขึ้นแล้ว หุ้นยุโรปบวกกันถ้วนหน้า ระดับครึ่งค่อนเปอร์เซนต์ ดาวโจนส์ฟื้นขึ้นมา 78 จุด ราคาทองคำโงหัวขึ้นมาที่ระดับ1,685 ดอลลาร์ต่อออนส์ ขณะที่ราคาน้ำมันขยับขึ้นที่ระดับ 106 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ส่วนตลาดหุ้นย่านเอเชียวันนี้ คงลืมต้าอ้าปากได้บ้าง หลังจากมุดลงมาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนวันนี้ คงไม่คึกคักมากนัก เพราะไม่มีปัจจัยในเชิงบวกกระตุ้น และความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงวันหยุด ยังมีผลกระทบเชิงจิตวิทยาอยู่ หรืออาจฉุดให้หุ้นปรับตัวลง ชดเชยวันที่ปิดทำการได้ นอกจากนั้น แรงหนุนจากต่างชาติ เริ่มแสดงความอ่อนล้า เพราะเมื่อวันอังคาร ยอดซื้อสุทธิของต่างชาติเหลือเพียง 500 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นยอดซื้อสุทธิที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับการซื้อในรอบหลายสัปดาห์
ประเมินจากปัจจัยแวดล้อมแล้ว ไม่มีข่าวดีชิ้นใหม่เข้ามาเสริม มีแต่ความแปรปรวนของปัจจัยภายนอก โดยความกังวลวิกฤตการณ์หนี้ของยุโรปยังไม่หมดไป ส่วนปัจจัยภายใน ไม่มีอะไรที่เป็นบวก และช่วงปลายสัปดาห์นี้ จะมีความเคลื่อนไหวต่อต้านแก้รัฐธรรมนูญของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้สถานการณ์การเมืองร้อนขึ้น ซึ่งแม้นักลงทุนยังไม่ให้น้ำหนักต่อสถานการณ์ทางการเมืองมากนัก แต่ต้องให้ความสำคัญต่อปัจจัยการเมืองไว้บ้าง โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอาจนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงได้
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ควรจะเน้นการปักหลักรอคอย แม้หุ้นจะอ่อนตัวลงมา ก็ไม่ควรรีบร้อนเข้าไปช้อนเก็บ เพราะไม่มีสัญญาณการดีดตัวกลับ ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า ตลาดจะกลับสู่ความร้อนแรง และท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน ประคับประคองตัวได้ ดัชนีติดลบเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเก่งแล้ว
สิ่งที่ต้องจับตาใกล้ชิดคือ นักลงทุนต่างชาติ หมดแรงซื้อหรือยัง ถ้าหมดแรงซื้อ และเริ่มเทขาย ต้องชิงทิ้งหุ้นหนีตามฝรั่งให้ทัน อย่าซื้อสวน
ส่วนสิ่งที่ต้องระวังคือ หุ้นที่กำลังเปิดกลยุทธ์ล่อแมลงเม่า โดยสร้างข่าวมายั่วกิเลศนักเก็งกำไร ไม่ว่าการเพิ่มทุน การแจกวอแร้นท์ หรือสร้างประเด็นเชิงบวกอื่นๆ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับหุ้นตัวเล็กๆ จะตามแห่เก็งกำไรตามข่าวอะไร ต้องยับยั้งชั่งใจให้ดี
หลักลงทุนโดยรวมแล้ว ช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูง ควรเน้นการลดน้ำหนัก ไม่ใช่เพิ่มน้ำหนักการลงทุน มีกำไรก็ทยอยปล่อยของออกมาบ้าง
เพราะจุดสูงสุดของหุ้นในรอบนี้ น่าจะผ่านพ้นไปแล้วที่ดัชนี1173 จุด
หมายเหตุ... คอลัมน์เกาะติดชีพจรหุ้น จะมีรายงานวันละ 3 เวลา โดยก่อนเปิดตลาดช่วงเช้า ระหว่างเวลาประมาณ 9.00น.-9.30 น. หลังปิดตลาดภาคเช้า รายงานเวลาประมาณ 13.00น. และหลังปิดตลาดภาคบ่าย เวลาประมาณ18.00น.
ส่วนคอลัมน์พูดจาประสาคน(อยาก)รวยหุ้น เป็นการสอบถามปัญหาหุ้นโดยทั่วไป โดยจะพยายามตอบคำถามให้เร็วที่สุด มีคำถามอะไร ตั้งไว้ในคอลัมน์ได้