ASTV ผู้จัดการรายวัน - "ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป"ประกาศงบปี 2554 รายได้รวม 766.28 ล้านบาท กำไรสุทธิ 27.68 ล้านบาท หรือ 0.59 บาทต่อหุ้น ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 เพราะไม่มีการบันทึกกำไรปรับโครงสร้างหนี้ ชี้ตลาดเบาะหนังรถยนต์ ส่งสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจน พร้อมเจาะตลาดเบาะผ้าเพิ่มความหลากหลายทางธุรกิจ
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดทั้งปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้สุทธิรวมเท่ากับ 766,276,530 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 27,681,914 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.59 บาท ขณะที่ปี 2553 บริษัทฯมีรายได้รวมจำนวน 894,344,604.6 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิ 242,719,080 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.29 บาทต่อหุ้นในปี 2553
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัท มีรายได้สุทธิ และกำไรสุทธิลดลงจากในปี 2553 เนื่องจากในปี 2553 บริษัทฯ มีกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 179.11 ล้านบาท และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 7.72 ล้านบาท ขณะที่ปี 2554 บริษัทฯไม่มีบัญชีการปรับโครงสร้างหนี้ประกอบขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 1.42 ล้านบาท
“ในปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมเบาะหนังรถยนต์ค่อนข้างจะมีปัจจัยเข้ามากระทบ ทั้งผลกระทบจากภัยสึนามิที่ญี่ปุ่น ขณะที่ในช่วงปลายไทยก็ประสับปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ ส่งผลทำให้ยอดคำสั่งซื้อรถยนต์ปรับลดลงอย่างชัดเจน แต่หากพิจารณาผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯ แล้วถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะถึงแม้ในปี 2554 ไม่มีการบันทึกกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทฯ คงมีผลกำไรสุทธิสูงถึง 27.68 ล้านบาท”
นายวีระพล กล่าวว่า อย่างไรก็ดีผลกระทบจากปัจจัยลบในปีที่ผ่านมากลับเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมเบาะหนังรถยนต์ในปีนี้ (ปี 2555) เนื่องจากมีคำสั่งซื้อที่ตกค้างและยกยอดเข้ามาในปีนี้ค่อนข้างสูง
“ในปีนี้ ตลาดรถยนต์มีสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ต้นปี โดยจะเห็นได้ว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกำลังการผลิตเกือบล้าน โดยล่าสุดบริษัทฯ มีการเริ่มผลิตเบาะผ้าร่วมกับพันธมิตรโตโยบุสซัง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งยังมีรายการพิเศษเกี่ยวกับการขายเงินลงทุนในจีนเข้าอีกด้วย”
นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดทั้งปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้สุทธิรวมเท่ากับ 766,276,530 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 27,681,914 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.59 บาท ขณะที่ปี 2553 บริษัทฯมีรายได้รวมจำนวน 894,344,604.6 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิ 242,719,080 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.29 บาทต่อหุ้นในปี 2553
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัท มีรายได้สุทธิ และกำไรสุทธิลดลงจากในปี 2553 เนื่องจากในปี 2553 บริษัทฯ มีกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 179.11 ล้านบาท และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 7.72 ล้านบาท ขณะที่ปี 2554 บริษัทฯไม่มีบัญชีการปรับโครงสร้างหนี้ประกอบขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 1.42 ล้านบาท
“ในปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมเบาะหนังรถยนต์ค่อนข้างจะมีปัจจัยเข้ามากระทบ ทั้งผลกระทบจากภัยสึนามิที่ญี่ปุ่น ขณะที่ในช่วงปลายไทยก็ประสับปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ ส่งผลทำให้ยอดคำสั่งซื้อรถยนต์ปรับลดลงอย่างชัดเจน แต่หากพิจารณาผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯ แล้วถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะถึงแม้ในปี 2554 ไม่มีการบันทึกกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทฯ คงมีผลกำไรสุทธิสูงถึง 27.68 ล้านบาท”
นายวีระพล กล่าวว่า อย่างไรก็ดีผลกระทบจากปัจจัยลบในปีที่ผ่านมากลับเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมเบาะหนังรถยนต์ในปีนี้ (ปี 2555) เนื่องจากมีคำสั่งซื้อที่ตกค้างและยกยอดเข้ามาในปีนี้ค่อนข้างสูง
“ในปีนี้ ตลาดรถยนต์มีสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ต้นปี โดยจะเห็นได้ว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกำลังการผลิตเกือบล้าน โดยล่าสุดบริษัทฯ มีการเริ่มผลิตเบาะผ้าร่วมกับพันธมิตรโตโยบุสซัง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งยังมีรายการพิเศษเกี่ยวกับการขายเงินลงทุนในจีนเข้าอีกด้วย”