ศูนย์วิจัยกสิกรฯ เผยผลสำรวจพฤติกรรมคนกรุง ช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ พบมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 12.8% ผู้ประกอบการ คาด หวังกระตุ้นยอดขาย สินค้า-บริการ เพิ่มขึ้น ทดแทนช่วง คริสต์มาส-ปีใหม่ ที่ยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ระบุ การอัดแคมเปญการตลาด ปลุกกำลังซื้อ “วัยรุ่น” กลุ่มเป้าหมายหลัก หนุนเม็ดเงินสะพัด 1,280 ล้านบาท พร้อมคาด ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ และร้านอาหาร ยอดขายบริการคึกคัก
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับเทศกาลวันวาเลนไทน์ปี 2555 เมื่อวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2555 มีผู้ตอบแบบสอบถาม 400 คน อายุระหว่าง 13-30 ปี โดยพบว่าในปีนี้จะมีค่าใช้จ่ายในช่วงวันวาเลนไทน์เฉลี่ยอยู่ที่ 878 บาทต่อคน คิดเป็นเม็ดเงินสะพัดทั่วกรุงเทพฯ ประมาณ 1,280 ล้านบาท หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 12.8 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับเทศกาลวาเลนไทน์เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการธุรกิจต่างคาดหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่สามารถกระตุ้นยอดจำหน่ายสินค้าและบริการได้เพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี หลังจากช่วงเทศกาลจับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ทำให้ยอดขายของธุรกิจไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม ในปี 2555 แม้สัญญาณการปรับขึ้นราคาสินค้าโดยเฉพาะดอกกุหลาบและอาหารจะมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่คาดว่าผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเทศกาลนี้ยังคงให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ และยังมีการใช้จ่ายเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์ อาจจะมาจาก 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มผู้บริโภคที่ตั้งใจจะซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงการทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงวันวาเลนไทน์
นอกจากนี้ อาจมีรายได้อีกส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการทำตลาด (Marketing) ในช่วงวันวาเลนไทน์ เพราะนอกจากจะดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์โดยตรงแล้ว ก็น่าจะมีบทบาทสำคัญที่จะสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มอื่น ให้เกิดความสนใจในตัวสินค้าและบริการ และเกิดการตัดสินใจซื้อแบบฉับพลัน ณ จุดขาย
ทั้งนี้ การทำ marketing ของผู้ประกอบการในช่วงวันวาเลนไทน์ อาจจะช่วยเพิ่มยอดขายทางอ้อมจากผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้กับธุรกิจได้พอสมควร โดยเฉพาะธุรกิจห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ และร้านอาหาร ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมในช่วงวันวาเลนไทน์อย่างมาก
